ซีพีแลนด์ เพิ่มพอร์ตบ้านหรูครั้งแรกในรอบ40 ปี ทำอีก 4 แบรนด์ใหม่ปี68 คลุมจังหวัดหัวเมือง-กทมฯ เจาะกลุ่มลักซูรี่ พายอดขายแตะหมื่นล.ใน3 ปีหน้า
กีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่บนิหาร บริษึท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือซี.พี. เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางยุทธศาสตร์ธุรกิจอสังหาฯ มุ่งสู่กลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยระดับหรูเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี
โดยในปี 2568 จะมีสินค้ากลุ่มลักซูรี่ เข้าสู่ตลาดไม่ต่ำ 4 แบรนด์ใหม่ รวมมูลค่ากว่า 4,470 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 โครงการในทำเล กรุงเทพฯ และ อีก 2 โครงการในอนาคตซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
กีรติ กล่าวว่า ซี.พี.แลนด์ มองเห็นโอกาสในตลาดที่อยู่อาศัยกลุ่มลักซูรี่ ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด จาก2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ 1. กลุ่มลูกค้าใหม่ และ 2. กลุ่มลูกค้าเดิม ที่มีศักยภาพกำลังซื้อสูง ซึ่งพบว่าเซ็กเมนต์ดังกล่าวยังมีดีมานด์ต่อเติบโตดีในอนาคต
“ เป็นครั้งแรกของซี.พี.แลนด์ ในตลาดลักซูรี่ ที่มองว่ายังมีช่องว่างอยู่อีกมาก แม้จะมีผู้เล่นในตลาดอยู่ก่อนหน้าก็ตาม แต่จากแนวคิด คัสโตเมอร์ เซ็นทริก ของบริษัท ที่แคร์กลุ่มลูกค้าเป็นหลักและหากทำสินค้าได้ออกมาตรงกันจะเป็นโอกาสทางตลาดของเรา” กีรติ กล่าว
ขณะที่ในปี 2567 บริษัทมีแผนเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,640 ล้านบาท ครอบคลุมจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ประกอบด้วย
- นครศรีธรรมราช
- นครสวรรค์
- พิษณุโลก
- ขอนแก่น (คอนโดไฮ-ไรซ์ และ คอนโด โลว์-ไรซ์
โดยในจังหวัดนครศรีธรรมราช ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัวโครงการ LUXRIVA RESIDENCES (ลักซ์วิรา เรสซิเดนเซส) บ้านเดี่ยวระดับหรู โครงการแรกของ CP LAND หลังการรีเฟรชแบรนด์ในรอบ 40 ปี รองรับกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง (High-Net-Worth Individuals: HNWIs) อาทิ นักธุรกิจ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือ Local Achiever มีราคาเริ่มต้น 14 - 25 ล้านบาท* จำนวน 115 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท
ทั้งนึ้ จากการสำรวจภาพรวมตลาดอสังหาฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปัจจุบันมีการขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยขนาดเศรษฐกิจ ของบริษัท อยู่ที่ 186.125 ล้านบาท เติบโต4.27% (YOY) มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี 122,490 แสนบาท จากปีก่อน และมีการจ้างงานคงที่ไม่มีอัตราการว่างงาน ขณะที่กิจการเอสเอ็มอีแข็งแกร่งโดยในภาพรวม เติบโต6.99%และมีการเติบโตภาคธุรกิจขนาดกลางอย่างมีนัยสำคัญ อยู่ที่ 14.7% จากปีก่อน
ด้าน ดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาดโครงการ บริการหลังการขายและลูกค้าสัมพันธ์ CP LAND กล่าวว่า โครงการ LUXRIVA RESIDENCES พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Modern-Tropical Luxury Living นิยามใหม่ เหนือระดับแห่งการใช้ชีวิต’ โดยยังพลิกโฉมโปรดักต์ใหม่ทั้งหมด ด้วยตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพรายล้อมด้วย Mixed-Use Community บน ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดยโครงการฯ มีเนื้อที่รวมประมาณ 44 ไร่ จำนวน 115 ยูนิต มีบ้าน 3 แบบ คือ
- Type A: Ashley - แอชลีย์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. เนื้อที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.ว.
- Type B: Berkley - เบิร์กลีย์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. เนื้อที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว
- Type C: Clara - คลาร่า ขนาดพื้นที่ใช้สอย 465 ตร.ม. เนื้อที่ดินเริ่มต้น128 ตร.
ในด้านการออกแบบโครงการฯ ยังมีจุดเด่น เพดานบ้านสูง (Double Volume) 6.6 เมตร บริเวณ Living Area ทุกหลัง อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทสะดวก ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย กว้างขวาง โถสุขภัณฑ์แบบ Smart Toillet ที่จอดรถกว้างสามารถจอดได้สะดวก อ่างอาบนํ้าในห้องนอน Master Bedroom พร้อมรับประกันโครงสร้างบ้าน 10 ปี และยังเป็นโครงการแรก ครอบคลุมทั้งเรื่องโครงสร้างอาคาร การรั่วซึมของหลังคา การรั่วซึมของระบบท่อและไฟฟ้า การใช้งานของประตูและหน้าตา
ในส่วนพื้นที่ส่วนกลาง Clubhouse มี THE COMMON ที่เป็น Co-Kitchen สามารถใช้พื้นที่สำหรับทำอาหาร จัดงานเลี้ยงปาร์ตี้สังสรรค์ พร้อมห้อง RIVA LOUNGE ที่เป็น Co-Working Space หรือ Living Area ใช้สำหรับนั่งเล่น นั่งทำงาน ประชุมงาน มีห้อง ACTIVE SPACE ที่เป็น Gym และ Yoga Studio สระว่ายนํ้ากลางแจ้ง ขนาด Half Olympic กว้างถึง 5 เมตร ยาว 25 เมตร พร้อม Sunbathe และพื้นที่ Outdoor Lounge พื้นที่สีเขียวสวนขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ พร้อม Sunken Seat, Amphitheater, Children’s Playground Zone และ Jogging Area
โดยโครงการฯ ปิดการขายในเฟสแรกไปแล้ว 30 หลัง และในเฟส2 ล่าสุดปิดการขายไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
จากแผนดังกล่าวในปีนี้ บริษัทวางแผนมีรายได้จากสินค้าอสังหาฯที่อยู่อาศัยตลาดในกลุ่มเดิม 70% และกลุ่มลักซูรี่ 30% คาดมีรายได้ราว 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,5000 ล้านบาท ปรับเป้าจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว
โดยในปึ 2568 คาดจะมีสัดส่วนสินค้าตลาดทั่วไปและลักซูรี่ เท่ากัน 50% และจากแผนขยายพอร์ตสินค้าลักซูรี่อย่างต่อเนื่อง จะผลักดันให้ ซี.พี.แลนด์ มียอดขายสะสมและการโอนโครงการฯ ต่อเนื่องอยู่ที่ 3,000 ล้านต่อปี เพื่อผลักดันให้ บริษีทฯ มีผลดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า และมีความแข็งแกร่งทั้งแบรนด์และด้านการเงินเพื่อนำกิจการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตามแผนที่วางไว้