กฟผ.ส่งโรงไฟฟ้าพลังน้ำผาจุก ตอบโจทย์พลังสะอาด

กฟผ.ส่งโรงไฟฟ้าพลังน้ำผาจุก ตอบโจทย์พลังสะอาด
เปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก 14 เมกะวัตต์ป้อนไฟภาคเหนือ เสริมความมั่นคงด้านพลังงาน ผลักดันประเทศมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ ณ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ถือเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุด นับเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนแห่งที่ 10 ของกฟผ.

ทั้งนี้เป็นการนำน้ำที่ต้องระบายอยู่แล้วของเขื่อนผาจุกมาผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตไฟฟ้าอีกครั้งก่อนระบายลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำตามเดิม ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการเกษตรและด้านพลังงานร่วมกัน

ตลอดจนเกิดความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานใหม่ให้แก่ประชาชนของจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า  โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กฟผ. และกรมชลประทาน ในโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 14 เมกะวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง (เครื่องละ 7 เมกะวัตต์)

 

เริ่มเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2565 ช่วยเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 45,000 ตัน/ปี ตอบโจทย์พลังงานสะอาดช่วยลดภาวะโลกร้อน สอดรับกับนโยบายพลังงานของประเทศ พร้อมมุ่งสู่ Carbon Neutrality ควบคู่กับดูแล สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามกฟผ. ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานแล้วเสร็จจำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนแม่กลอง เขื่อนนเรศวร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนคลองตรอน และเขื่อนผาจุก รวมกำลังผลิตติดตั้ง 101.95 เมกกะวัตต์

TAGS: #กฟผ. #โรงไฟฟ้าพลังน้ำ #เขื่อนผาจุก #สังคมคาร์บอนต่ำ