หอการค้าไทยสะท้อนมุมมองนักธุรกิจยื่น 10 ประเด็นสำคัญเร่งขับเคลื่อนประเทศ ขอทุกฝ่ายรัฐ-เอกชนทำงานร่วมกัน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในโอกาสที่ปี 2566 นี้ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป ภาคเอกชนในนามหอการค้าฯ ต้องการสะท้อนความคิดเห็นของเราในมิติต่างๆให้กับรัฐบาลที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น โดยจัดเวทีระดมความคิดเห็นเรื่อง“มุมมองของภาคธุรกิจต่อนโยบายขับเคลื่อนประเทศ”เพื่อสะท้อนมุมมองข้อเสนอจากภาคธุรกิจต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งจัดทำเป็นสมุดปกขาวเพื่อนำเสนอให้กับ 10 พรรคการเมืองที่จะเป็นว่าที่รัฐบาล
ทั้งนี้ข้อคิดและแนวทางการพัฒนาประเทศ ใน 10 ประเด็นสำคัญ ประกอบไปด้วย ประเด็นที่ 1 Digital Transformation และการศึกษาไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการปฏิรูปการศึกษา (Education Reform) ด้วยการนำเทคโนโลยี Digital มาใช้ เป็นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงความรู้ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ส่งเสริมการเป็น Technology hub ของไทย
ประเด็นที่ 2 การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ โดยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้มีรายได้ที่สูงขึ้นเพื่อสามารถแข่งขันได้กับประเทศเพื่อนบ้านและสากล ส่งเสริม การลงทุนในอุตสาหกรรม High Technology และนวัตกรรมใหม่ที่มีมูลค่าสูง และไม่มีมลภาวะ ส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub ที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภคระดับสูงและความสะดวกในการออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจทุกประเภท
ประเด็นที่ 3 การค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาแรงงานของไทย จากปัญหาเศรษฐกิจโลกและความท้าทายที่เกิดขึ้นในหลายๆ ภูมิภาค ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งข้อตกลงทางการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือหนึ่งในการลดการเสียเปรียบทางการค้ากับประเทศต่างๆ โดยประเทศไทยควรเร่งรัดการเจรจา FTA ให้มากขึ้นและต้องมีการปลดล็อคปัญหาต่าง ๆเพื่อให้ดำเนินงานต่อได้ ประเทศไทยต้องพร้อมและสามารถเปิด FTA ได้กับทุกประเทศ โดยไม่เข้าข้าง ฝ่ายใด รวมทั้งประเทศไทยต้องปรับตัวเองเพื่อเข้าสู่มาตรฐานใหม่ของการทำ FTA ในอนาคต
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและผลิตภาพแรงงานในอนาคต ทางภาคเอกชนมีความเห็นเพื่อรับมือ ดังนี้ การปรับอัตราตอบแทนค่าจ้างหรือค่าจ้างขั้นต่ำ ให้เป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ประเด็นที่ 4 การส่งเสริมภาคธุรกิจเกษตร อาหาร และ BCG & ESG ภาคการเกษตรของไทยยังมีศักยภาพ และโอกาสในการพัฒนาเพื่อพลิกโฉมประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำด้านการเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง โดยสนับสนุนเกษตรกรปรับเปลี่ยนการทำเกษตร ให้เหมาะสมกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อม สอดคล้องความต้องการตลาด ส่งเสริมการทำเกษตรแบบรวมผลิต รวมจำหน่าย
ประเด็นที่ 5 การส่งเสริมภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งการรักษาความเป็น Top of mind of Tourism เป็นสิ่งที่ยากไทยต้องจัดทำนโยบาย เชิงรุก ที่ชัดเจนและลงรายละเอียด โดยต่อยอด จากความสำเร็จ โดยเน้น 3 แผนงาน คือ 1.Refresh Branding ให้มี จุดยืนที่แตกต่างและชัดเจนขึ้น สร้างเป้าหมายและ Action Plan ในทิศทางเดียวกัน พุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกัน ใช้งบประมาณอย่างไม่ซ้ำซ้อน ไม่แบ่งแยกกันทำ
2.กลยุทธ์สร้างความสำเร็จ เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวอย่างทวีคูณสู่ความยั่งยืน สร้างHub of Art ที่ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia ในหลายมิติ นำงานระดับโลกให้มาจัดที่ประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็น Ultimate Destinationและสร้างการลงทุนในระยะยาวเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในเอเชีย และ3. การขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ (Sustainability) เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ไม่ได้เน้นปริมาณแต่ควรเพิ่มคุณภาพของนักท่องเที่ยว ให้ อยู่นานและใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึง สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้นานาชาติ โดยการใช้ Soft Power เอกลักษณ์ไทย
ประเด็นที่ 6 การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยพัฒนา Ease of Doing Business และ Ease of Investmentให้เป็นที่ยอมรับและดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้มากขึ้น โดยเร่งทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ประเด็นที่ 7 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เป็นเรื่องที่สำคัญต่อ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยจะขอยก 3 เรื่องสำคัญ คือ การบริหารจัดการน้ำ การขนส่ง และ ระบบ Digital Internet
ประเด็นที่ 8 โอกาสของไทยด้านการค้าชายแดนและค้าผ่านแดน ซึ่งการส่งเสริมการค้าต่างประเทศที่คนตัวเล็ก หรือ SMEs จะได้ประโยชน์คุ้มค่าและความเสี่ยงไม่เยอะมาก โดยเปิดจุดการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้านให้ครบทั้ง 97 จุด ตามเดิมเหมือนช่วงก่อนปี 2562 เพื่อเพิ่มช่องทางในการกระจายสินค้าให้สะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรเพิ่ม 5 จุด และเร่งรัดการเจรจาการค้าเปิดการเดินเรือชายฝั่งระหว่าง 3 ประเทศ ไทย , กัมพูชา , เวียดนาม( CVTEC )
ประเด็นที่ 9 การสนับสนุนคนรุ่นใหม่ “โอกาส” การสร้างโอกาสให้คนตัวเล็ก การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโต การเติมเต็มสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ยั่งยืน การกระจายโอกาสไปทั่วประเทศไม่ให้ กระจุกตัวอยู่กรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ๆเป็นเรื่องสำคัญ
ประเด็นที่ 10 ข้อเสนอจากตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งจากมุมมองของนักศึกษาที่เป็นคนรุ่นใหม่มีมุมมองนำเสนอ 3 ด้าน คือ ด้าน Education ปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้จากทุกพื้นที่ ด้าน Equality ลดช่องโหว่ของความเท่าเทียมในพื้นที่การศึกษาระหว่างพื้นที่ในเมืองและพื้นที่ชนบท และด้าน Environmental การปรับปรุงคุณภาพอากาศผ่านนโยบาย Carbon emission ที่ให้ความสำคัญกับความตระหนักรู้และเข้าถึงในการใช้ขนส่งสาธารณะที่มากขึ้นเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
นายสนั่น กล่าวว่าผลสรุปดังกล่าวจะเป็นแนวทางกำหนดนโยบายภาคธุรกิจอยากเห็นทุกพรรคการเมืองได้นำเอาข้อเสนอไปปรับใช้กับนโยบายขับเคลื่อนประเทศเพื่อสร้างสรรค์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลชุดใหม่โดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติสูงสุด ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องถือเป็นนโยบายประเทศไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งข้อสรุปจากภาคเอกชนถึงพรรคการเมืองที่เป็นประโยชน์คือ อยากเห็นพรรคใดก็ตามที่มาเป็นรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารความมั่นคงต้องทำงานร่วมกัน