CPN ปรับรับกำลังซื้อเจนฯอนาคตเพิ่มไลฟ์สไตล์เติมแบรนด์พรีเมียม สร้างย่านCBDใหม่ผ่าน ‘มิกซ์ยูส’ เมืองกระบี่ พร้อมยกเครื่องโฉม 4 สาขา บางนา-ปิ่นเกล้า-แจ้งวัฒนะ-เชียงใหม่ แแอร์พอร์ต รวมกว่า 1.5 หมื่น ลบ.

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer Officer บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น (CPN) กล่าวว่า บริษัทวางแผนแม่บทธุรกิจ (Master Plan) ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส Retail-Led Mixed-Use ในย่านสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ และจังหวัดสำคัญของประเทศ ด้วยแนวคิดการพัฒนาภายใต้ความยั่งยืนของทุกส่วนประกอบในแต่ละโครงการฯ โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อรองรับกำลังซื้ออนาคต (Future Consumers) ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ต่างๆ และขยายกลุ่มสินค้าบริการระดับบน (Premiem) เพื่อตอบโจทย์อัปเปอร์ คลาส ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น

โดยมี 5 โครงการฯอยู่ระหว่างดำเนินการ คิดเป็นมูลค่ารวมทุกองค์ประกอบทั้ง ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย โรงแรม และ Convention Hall มากกว่า 15,000 ล้านบาท นำโดย ‘เซ็นทรัล กระบี่’ โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกใจกลางจังหวัดกระบี่ และเตรียมเปลี่ยนโฉมใหม่ศูนย์​การค้าเซ็นทรัล 4 สาขา คือ เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต    

สำหรับ ‘เซ็นทรัล กระบี่’ (Central Krabi) พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ New Haven of Life (Destination | Nature Lifestyle) โครงการมิกซ์ยูสมูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท บนทำเลติด ถ.ศรีพังงา ใกล้แยกลานสะตอ มีขนาดพื้นที่ 114 ไร่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า (GBA: 47,500 sq.m.) เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส3 ปี 2568 และในอนาคต มีแผนที่จะพัฒนาทั้งบ้านระดับพรีเมียม คอนโดมิเนียม และโรงแรม

“โครงการ มิกซ์ยูส เซ็นทรัล กระบี่ ยังวางตำแหน่งให้เป็นย่านธุรกิจสำคัญ (CBD) แห่งใหม่ในเมืองกระบี่ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตของจังหวัดที่มีชื่อเสียงจุดหมายปลายทางระดับโลก ด้วยมีรายได้การท่องเที่ยวลำดับที่ 6 ของประเทศ และลำดับที่ 3 ของภาคใต้ มีการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ในปี 2566 ทำรายได้ 52,500 ล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาแล้วกว่า 4 ล้านคน อีกทั้งมีแผนขยายสนามบินนานาชาติที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 8 ล้านคนต่อปี” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

นอกจากนี้ กระบี่ ยังเป็นจังหวัดกำลังซื้อสูงมี GPP per capita ที่ 190,573 บาทต่อปี คิดเป็นอันดับที่ 4 ของภาคใต้ และการใช้จ่ายต่อครัวเรือนที่สูงติด Top 5 ของประเทศ   รวมถึงยังเป็นทำเลการค้าที่มีศักยภาพสูง (High-Quality Catchment Area)  ประมาณ 480,000 คน จากในเมืองกระบี่และผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านและคอนโดราคาสูงตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท ที่มีรวมกว่า 1,000 ยูนิต

โฉมใหม่ 4 ทำเล รับกำลังซื้อเจนฯใหม่

สำหรับ ‘เซ็นทรัล บางนา’ พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในทำเลบางนา บนพื้นที่ 55 ไร่ โดยเฟสแรกจะโฟกัสในส่วนศูนย์การค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ Urban Luxe & Lush Lifestyle เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Upper Class เพื่อให้เป็นสถานที่ของผู้คนในย่านดังกล่าวอยู่เสมอ และมีการเติบโตของการเป็นทำเลการค้าศักยภาพ  ซึ่งแวดล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 9 แสนยูนิต และเป็นที่อยู่อาศัยระดับหรูกว่า 5,000 ยูนิต มีโรงเรียนนานาชาติระดับ top-tier กว่า 20 แห่ง ประชากรมีรายได้สูงกว่า Bangkok CBD บางย่าน คาดเปิดตัวไตรมาสแรก ปี 2569

ขณะที่ ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’ เตรียมปรับโฉมภายใต้แนวคิด New Soul of the District (Creative | Moment | Magnetic) วางตำแหน่งเป็นแลนด์มาร์กและเมืองหลวงของฝั่งธนบุรี และจุดนัดพบ รองรับฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีกำลังซื้อ นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ  ด้วยเป็นทำเลการค้าศักยภาพสูงในปัจจุบันมีประชากรหนาแน่นถึง 3,000,000 คน, ราคาที่ดินเติบโตสูง เป็นต้น คาดพร้อมเปิดไตรมาส2 ปี2568  

ด้าน ‘เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ’ วางแนวคิด The Life Extraordinaire (Affluent | Vibrant | Art) ด้วยเป็นย่านที่เติบโตและเปลี่ยนผ่านจากย่านชานเมืองสู่ย่านธุรกิจใหม่ (New CBD) จำนวนประชากรเติบโตเทียบเท่าย่านพระราม 9 และเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่าย่านอื่นๆ ในนนทบุรี โดยเป็นครอบครัวกำลังซื้อสูง และหมู่บ้านชาวต่างชาติ Expat ที่มีจำนวนมาก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่า 300% แวดล้อมด้วยออฟฟิศของภาครัฐและเอกชนซึ่งคาดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะมีจำนวน Office Workers เพิ่มขึ้น 300,000 คน รวมถึงความสะดวกการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู คาดพร้อมเปิดตัวโฉมใหม่ ไตรมาส2 ปี 2568

สุดท้าย ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ ปรับโฉมใหม่ด้วยแนวคิด– Reimagining Lanna (Authentic | Attraction | Culture) ย้ำตำแหน่งทำเลศักยภาพใจกลางเมือง อยู่ใกล้สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วด้วยโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และแผนเตรียมรับนโยบายเมืองแห่ง ครีเอทีฟ อีโคโนมี ฮับ  (Creative Economy Hub) ในปี 2571 และยังมีความต้องการเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ด้วยเป็นทำเลศักยภาพสูงจากกำลังซื้อที่ขยายครอบคลุมประชากรกว่า 2,000,000 คน ในจังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง มีโครงการที่อยู่อาศัยโตขึ้นกว่า 34% โรงแรมระดับลักซูรี่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลโตขึ้น 300% จากปี 2562 เป็นต้น คาดพร้อมเปิดไตรมาส 1 ปี 2569

เจาะไลฟ์สไตล์ยกระดับพรีเมี่ยม

ด้าน คุณายุธ เดชอุดม Head of Business Development Strategy บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าซีพีเอ็น ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจากการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อนำมาใช้ร่วมกับการเปลี่ยนผ่านโฉมใหม่ทั้ง 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และในโครงการเซ็นทรัล กระบี่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันมีความต้องการไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป และยังขยับกำลังซื้อสูงขึ้น มากกว่าในอดีต โดยแต่ละศูนย์ฯจะให้ความสำคัญในด้านไลฟ์สไตล์ พร้อมเพิ่มสินค้าแบรนด์พรีเมี่ยม เข้ามามากขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะใช้กลยุทธ์การผสมผสานแบรนด์ร้านค้าใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละศูนย์ฯ  พร้อมเปลี่ยนนิยาม (Redefined) ให้กับแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล อาทิ แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ (Tops) ร้านค้าปลีกกีฬา Supersports ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เพาเวอร์บาย (Power Buy) และร้านหนังสืออุปกรณ์เครื่องเขียน B2S โดยทั้งหมดจะวางแนวคิดใหม่ในรูปแบบลักซูรี่แบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกด้วย

เที่ยวฟื้น-เงินดิจิทัล หนุนค้าปลีกปลายปี

ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในโค้งท้ายปี 2567 นี้ มองว่า จากสถานการณ์ท่องเที่ยวทึ่คาดว่าจะกลับมาคึกคักด้วยเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย คาดส่งผลบวกต่อภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย รวมถึงจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เกิดขึ้น ยังจะผลักดันความมั่นใจทางเศรษฐกิจต่อการออกมาตรการกระตุ้นในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่จะในรูปแบบเงินสด ซึ่งมองว่าจะส่งผลดีกับภาคธุรกิจศูนย์การค้าเช่นกัน