เซ็นทรัลฯ วางโรดแมปดัน ‘ไทย’ ติดลิสต์ปลายทาง ‘ฮับ’ อีเวนต์กาแฟระดับโลกในอีก 2 ปีหน้า ต่อยอดระบบนิเวศสร้างเศรษฐกิจกาแฟไทยทะลุแสนล.บาท

ขวัญแก้ว สิริจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานการส่งเสริมธุรกิจ ฝ่ายการตลาด บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น (CPN) เปิดเผยว่า ซีพีเอ็น วางเป้าหมายปักหมุดประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางศูนย์กลางการจัดงานกิจกรรมกาแฟครบวงจรระดับโลก ‘World Coffee Destination’ ภายในปี 2569 หรือในอีก 2 ปีหน้า

สำหรับแผนดังกล่าว เป็นการต่อยอดจากการจัดงาน Thailand Coffee Hub ทั่วประเทศ โดยร่วมกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH) เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกาแฟไทยทั้งระบบนิเวศ (Coffee Ecosystem) ได้อย่างแข็งแกร่งไปพร้อมสร้างการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟในแต่ละประเภทร่วมกัน

ล่าสุดในปีนี้  ซีพีเอ็น และ SCATH  จัดงานทศกาลกาแฟ ‘Thailand Coffee Hub’ ต่อเนื่องปี3  ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ อาทิ นครสวรรค์ ขอนแก่น พัทยา พร้อมขยายอีก2 แห่งที่ หาดใหญ่ และ จันทรบุรี รวมถึงในกรุงเทพฯ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อโชว์ศักยภาพของกาแฟไทยและบาริสต้าไทยไปยังกลุ่ม นักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยแลต่างชาติ โดยงานฯ เริ่มระหว่างวันที่ 2 ต.ค. 67 – 8 ต.ค. 67

“คาดเห็นความชัดเจนในอีก 2 ปีหน้าในการผลักดันให้ไทยเป็น World Coffee Destination ที่อยู่ในลิสต์การจัดงานกาแฟระดับโลกที่เพื่อดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจด้านกาแฟครบวงจรจากต่างชาติเข้ามาได้มากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศมาร่วมงาน ซึ่งในช่วงระหว่างทางนี้ซีพีเอ็นจะเตรียมความพร้อมเพื่อหารือร่วมกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อบรรจุอีเวนต์นี้ในการโปรโมทท่องเที่ยวไทยในอนาคต” ขวัญแก้ว กล่าว

สำหรับการจัดงานฯ ตลอดระยะเวลที่ผ่านมาได้พันธมิตรแบรนด์กาแฟกว่า 300 ราย ร่วมเดินสายจัดงานตลอด 3 ปี สร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทย ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยในปีแรกมีจำนวนผู้เข้าชมงานรวมกว่า 70,000 คน ปีที่สองเพิ่มขึ้น 30% และในปีที่ 3 วางเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก 50% หรืออยู่ที่ราว 150,000 คน

โดยการจัดงานฯ ยังช่วยต่อยอดธุรกิจให้ผู้ประกอบการกาแฟประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น ธุรกิจ Yellow stuff สามารถขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศจากการร่วมออกงาน Thailand Coffee Hub ทุกภูมิภาค และอีกหลายแบรนด์ เช่น Nana Coffee Roaster ที่ตัดสินใจเปิดร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล หลังจากมาร่วมงาน Thailand Coffee Hub เป็นต้น

ด้าน ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) มีมูลค่า 2,000 ล้านบาทของตลาดกาแฟพรีเมียมมีมูลค่า 20,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดกาแฟรวม 100,000 ล้านบาทซึ่งเติบโตเฉลี่ยนับตั้งแต่ปี 2564-2566 อยู่ที่ปีละ 8.55% ส่วนกาแฟพิเศษไทยเติบโตต่อเนื่องทุกปีไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งในแง่จำนวนร้านและบาริสต้า

โดยบริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก Euromonitor International รายงานมูลค่าตลาดกาแฟไทย พบว่ากาแฟเป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านการบริโภคกาแฟก็เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน จาก 30,000 ตัน เป็น 90,000 ตันต่อปี ภายในระยะเวลา 10 ปี เฉลี่ยวันละ 1.5 แก้วต่อวัน สะท้อนว่าอุตสาหกรรมกาแฟในไทยยังเติบโตได้อีกมาก

“การที่ไทยจะแข่งขันในระดับโลกได้นั้นต้องแข่งขันด้านคุณภาพ ด้วยการผลิตเมล็ดกาแฟพิเศษ เพิ่มมูลค่าของกาแฟให้สมเหตุสมผลกับราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงได้ส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำคือเกษตรกรผู้ผลิต มีการจัดประกวดกาแฟพิเศษเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรไทยหันมาทำกาแฟในเชิงคุณภาพมากขึ้น เป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตกาแฟพิเศษและค้นหากาแฟที่มีคุณภาพส่งต่อไปถึงปลายน้ำคือผู้บริโภค เพื่อนำเงินเข้ามาในระบบ พัฒนาให้อุตสาหกรรมกาแฟเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างเซ็นทรัลพัฒนา จัดงาน Thailand Coffee Hub เพื่อช่วยกันทำให้อุตสาหกรรมกาแฟในประเทศไทยเจริญเติบโต มีศักยภาพที่จะเป็นที่ยอมรับในเวทีกาแฟพิเศษโลกในอนาคตอันใกล้นี้" ณัฏฐ์รดา กล่าว

รายละเอียดงานเพิ่มเติม คลิก https://campaign.centralpattana.co.th/thailandcoffeehub/