‘เดนทิสเต้’ กับผลลัพธ์เกินคุ้มเมื่อตัดสินใจเลือก ลิซ่า เป็นแบรนด์แอมฯ พาสู่โกลบอลแบรนด์ใน 3 ปี หนุน ‘แฟนมีตอัป’ ใหญ่ พา‘เลดี้บอส LLOUD’ กลับบ้านเกิดในไทยครั้งแรกกับ 3 อีเวนต์เอ็กซคลูซีฟ
ดร.แสงสุข ทิพยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าในโอกาสที่แบรนด์เดนทิสเต้ (Denriste) ทำงานร่วมกับลิซ่า ‘ลลิษา มโนบาล’ ศิลปินเค-ป๊อปชาวไทย ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนถึงความสำเร็จต่อการพาแบรนด์เดนทิสเต้ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกได้เป็นอย่างมาก ที่ปัจจุบันสินค้าวางจำหน่ายแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ประเทศ
โดยตลอดช่วงการร่วมงานกับ ‘ลิซ่า’ มีส่วนผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มียอดขายเติบโตถึง 3 เท่าตัว และสร้างยอดขายได้จริงราว 50-100% ในช่วงเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ช่วงปี 2564-2565
"การทำตลาดต่างประเทศของเดนทิสเต้ จะมีราคาแตกต่างจากในไทย ปัจจุบันที่เกาหลี เดนทิสเต้มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 12% ส่วนในญี่ปุ่นแบรนด์ได้การตอบรับดีในกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมียม" ดร.แสงสุข กล่าวพร้อมเสริมว่า
ปัจจุบันเดนทิสเต้ อยู่ในตลาดเป็นเวลา 18 ปี จากจุดเริ่มต้นต้องการพัฒนาสินค้าภายใต้นวัตกรรมใหม่ที่สร้างความแตกต่างในตลาดยาสีฟันที่ขายในตลาดทั่วๆไปในช่วงนั้น ที่เน้นทำความสะอาดเพื่อความสดชื่นในช่องปาก
ขณะที่ ‘เดนทิสเต้’ วางตำแหน่งยาสีฟันนวัตกรรมมุ่งดูแลทำความสะอาดช่องปากไปพร้อมกับย้ำข้อความสำคัญ ‘ยาสีฟันก่อนนอน’ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค พร้อมใช้ฟีเจอร์สินค้ายาสีฟันที่มี enamel เคลือบฟันและเห็นผลลัพธ์ไม่นานหลังใช้ผลิตภัณฑ์ มาร่วมทำตลาดในช่วงแรก
"เดนทิสเต้ ได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาโดยตลอดอย่างการแปรงฟันแบบแห้งที่ได้การรับรองแล้วว่าดีกับช่องปาก โดยร่วมกับคลินิกทันตแพทย์กว่า 6,000 แห่งทั่วไทยเป็นผู้แนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับคนไทย" ดร.แสงสุข เสริมพร้อมกล่าวว่า
ทั้งนี้ หลังจากเดนทิสเต้ ทำตลาดมาระยะหนึ่งและเตรียมวางแผนขยายการทำตลาดในต่างประเทศนั้น ซึ่งในทุกปีผลิตภัณฑ์ได้จัดงานประชุมร่วมกับทันตแพทย์ทั่วประเทศไทย และจากงานฯดังกล่าวนี่เอง ทำให้แบรนด์ได้รับคำแนะนำที่น่าสนใจจากทันตแพทย์ท่านหนึ่งบอกว่าฟันของลิซ่า มีความสมมาตร (Symmetric) ที่สร้างความสวยของรอยยิ้มให้กับลิซ่า ได้เป็นอย่างมาก
"จากคำแนะนำของหมอฟันท่านนั้น ทำให้แบรนด์ตัดสินใจทำงานร่วมกันกับลิซ่าในฐานะแบนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งเดนทิสเต้ได้รับไลเซนส์การทำตลาดได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น"
อย่างไรก็ตามจากกระแสความโด่งดังของ ‘ลิซ่า’ ที่มีอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้แบรนด์เดนทิสเต้ เป็นที่รู้จักกว้างขวางระดับสากลในฐานะยาสีฟันระดับพรีเมี่ยมที่ลิซ่าเลือกใช้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่พาแบรนด์ไปสู่ระดับโลกแล้วในเวลานี้
สร้างแบรนด์ไม่พอ ช่วยคนไทยลดฟันผุด้วย
ด้าน ศิวกร พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัทสยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด และในฐานะผู้บริหารรุ่น2 กล่าวว่า การตัดสินใจเลือกลิซ่า มาร่วมงานในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์นั้น ต้องย้อนกลับไปราว 3-4 ปีก่อน ซึ่ง ‘เดนทิสเต้’ วางแผนขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ เจนเนอเรชันซี (Z Generation) และเป็นจังหวะเดียวกับความโด่งดังของ ‘ลิซ่า’ ที่มีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่และยังเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยอย่างมากในช่วงเวลานั้น
"จากความพยายามของทันตแพทย์ไทยตลอด 30 ปีที่ผ่านมาตัวเลขคนฟันผุ ไม่ได้ลดลง แต่หลังจากเดนทิสเต้ร่วมงานกับลิซ่า ได้เข้ามาสร้างความเป็นไปได้ในการดูแลฟันผุผ่านผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ โดยเฉพาะแคมเปญการแปรงแห้งเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งแต่เด็ก” ศิวกร กล่าวพร้อมเสริมว่า “จากการตัดสินใจเลือกลิซ่า มาเป็นแบรนด์แอมฯ ตั้งแต่ 3 ปีก่อนจนถึงวันนี้เป็นการตัดสินใจถูกอย่างมากเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้เกินคุ้มในวันนี้"
จัดใหญ่ 'แฟนมีตอัป' เลดี้บอส
ทั้งนี้ จากความสำเร็จดังกล่าว ล่าสุด เดนทิสเต้ เตรียมใช้งบเพิ่มเติมราว 200 ล้านบาทจัดอีเวนต์ส่งเสริมการตลาดผ่านกิจกรรม DENTISTE' Presents LISA Fan Meetup in Asia 2024 – Bangkok ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่ไบเทคไลฟ์ บางนา ถือเป็นกิจกรรม Fan Meetup ครั้งแรก สำหรับแฟน ๆ ของลิซ่า ทุกคน และลูกค้าเดนทิสเต้ พิเศษเฉพาะในประเทศไทยบ้านเกิดสุดยิ่งใหญ่ และยังเป็นครั้งแรกของลิซ่า ในฐานะศิลปินเดี่ยว และ เลดี้บอส ผู้บริหารค่ายเพลง LLOUD อีกด้วย
โดยงาน DENTISTE' x LISA Exclusive After Party ยังมีกิจกรรมพิเศษ 2 อีเว้นท์ ใน 1 วัน รวมแล้วในงานฯ จะมี 3 เซกชั่น คือ งานพรีอีเว้นท์, Fan Meetup และอาฟเตอร์ปาร์ตี้ สำหรับลูกค้าเดนทิสเต้โดยเฉพาะ ระยะเวลารวมกว่า 3 ชม. ขณะที่แผนจัด Fan Meetup ของลิซ่า จะมีขึ้นใน 5 ประเทศ คือ สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน และไทย
ด้าน ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า Fan Meetup ครั้งแรกของลิซ่าในไทยครั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญการตลาดยิ่งใหญ่ที่ ด้วย 3 กิจกรรมพิเศษ (Exclusive) เฉพาะในไทย ประกอบด้วย
- กิจกรรมสุดพิเศษทั้งในงานแฟนมีต
- เอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้
- จัดชุดผลิตภัณฑ์พิเศษคุ้มค่า สำหรับแฟนๆ เดนทิสเต้และแฟนๆ ลิซ่า ไม่ควรพลาด และใจฟูไปกับประสบการณ์พิเศษกับลิซ่า
สำหรับแคมเปญทางการตลาดครั้งนี้ ประกอบด้วย
- Top Spenders เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ เดนทิสเต้ ใดก็ได้ที่ร่วมรายการ สะสมยอดซื้อผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้สูงสุด อันดับที่ 1-10 (จำนวน 10 ท่าน) จะได้รับสิทธิ์เข้างาน Fan Meet งานพรีอีเว้นท์ และงาน After Party พร้อมถ่ายรูปคู่กับลิซ่าแบบตัวต่อตัว และลายเซ็นสดบนเวทีจากลิซ่า, อันดับที่ 11-30 (จำนวน 20 ท่าน) จะได้รับสิทธิ์เข้างาน Fan Meet งานพรีอีเว้นท์ และ งาน After Party พร้อมถ่ายรูปคู่กับลิซ่าแบบตัวต่อตัว และโพสต์เตอร์ที่มีลายเซ็นลิซ่า, อันดับที่ 31-150 (จำนวน 120 ท่าน) จะได้รับสิทธิ์เข้างาน Fan Meet งานพรีอีเว้นท์ และงาน After Party พร้อมรับโพสต์เตอร์ที่มีลายเซ็นลิซ่า และถ่ายรูปกลุ่มๆ ละ 10 คนกับลิซ่า
- VVIP Box Set และ VIP Box Set เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ เฉพาะสินค้า VVIP Box Set ราคา 29,000 บาท และ VIP Box Set ราคา 19,500 บาท รับผลิตภัณฑ์และสิทธิพิเศษ ดังนี้
- VVIP Box Set ราคา 29,000 บาท รวมจำนวนผู้โชคดี 775 รางวัล รับสิทธิ์เข้างาน Fan Meet งานพรีอีเว้นท์ และงาน After Party พร้อมรับDiamond Collection Set พร้อมด้วยเดนทิสเต้ Super Dose 350 กรัม Big Tote bag และบัตรรับประทานอาหารที่ร้านโอชา รวมมูลค่ากว่า60,000 บาท
- VIP Box Set ราคา 19,500 บาท รวมจำนวนผู้โชคดี 850 รางวัล พร้อมรับสิทธิ์เข้างาน Fan Meet งานพรีอีเว้นท์ และงาน After Party พร้อมรับ La Dolce Vita Set ประกอบด้วยสินค้าจากเดนทิสเต้ และBig Tote bag และบัตรรับประทานอาหารที่ร้านโอชา รวมมูลค่ากว่า 25,000 บาท
- Lucky Draw เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ใดก็ได้ที่ร่วมรายการมูลค่า 900 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จรับเงิน สามารถร่วมสนุกกับการจับรางวัล ลุ้นสิทธิ์เข้างาน Fan Meet และงาน After Party จำนวน 100 รางวัล
สำหรับ แฟนคลับลิซ่าและลูกค้าเดนทิสเต้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้และ VVIP Box Set และ VIP Box Setเพื่อลุ้นฟินทั้ง 3 ต่อ ได้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 17.00 น. จนกว่าสินค้าจะหมด
ขณะที่ ปัจจุบันตลาดรวมผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์ มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เติบโต 5% ต่อปี โดยกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมียมมีสัดส่วนราว 20% และเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งอยู่ในเซกเมนต์นี้ 40%
ทั้งนี้พบว่าปีนี้ ภาพรวมน้ำยาบ้วนปากโตขึ้น 20% และยาสีฟันโตขึ้น 12% เดนทิสเต้ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 3% โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้า GEN Z และ GEN Y ให้ได้มากที่สุด.
อนึ่งรายงานข่าวระบุ ในช่วงกลางปี 2567 ที่ผ่านมา เดนทิสเต้ ได้ต่อสัญญากับ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ ศิลปินเดี่ยวผู้บริหารค่ายเพลง LLOUD ในฐานะแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ได้อีกครั้ง โดยมีค่าตัวประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 100-140 ล้านบาท เป็นสัญญาแบบปีต่อปี