เอกชนไทย-จีน ตั้งกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจ เปิดแพลตฟอร์มการค้า 2 ประเทศ จัดSupplies Matching และงานแสดงสินค้าสร้างเวทีเจรจาขยายความร่วมมือ
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และตัวแทนประสานงานของกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีนอย่างยั่งยืน เปิดเผยถึง ความร่วมมือ ระหว่างหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน ว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน ไม่เพียงแต่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยและจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้ง "กลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีนยั่งยืน" ร่วมกัน มีเป้าหมายสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนไทยและจีน ร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ในแผนดำเนินการสำคัญ 9 ข้อ ได้แก่ 1.การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเศรษฐกิจและการค้าที่เชื่อถือได้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจของสังคมไทยต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน
2. การจัดการประชุมเป็นประจำระหว่างตัวแทนจากทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ 3. การส่งเสริมกิจกรรมการพบปะและแลกเปลี่ยนระหว่างธุรกิจไทยและจีน ผ่านงานสัมมนาและโครงการสาธารณกุศล 4. การร่วมมือในด้านการฝึกอบรมและการศึกษาเทคนิค เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านกฎหมาย วัฒนธรรม และแนวปฏิบัติทางธุรกิจของทั้งสองประเทศ
5.การจัดงาน Supplies Matching และงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการร่วมมือในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น 5G อีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ 6. การส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีสารสนเทศ 7.การให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจระหว่างสองประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
8.การเสริมสร้างความร่วมมือด้านสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่างไทยและจีน 9. การสนับสนุนให้ธุรกิจทั้งสองประเทศปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
"กลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีนอย่างยั่งยืน จะเป็นช่องทางหลักในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน เราหวังว่าจะสามารถช่วยลดข้อกังวล และอุปสรรคต่างๆ ที่ภาคธุรกิจทั้งสองประเทศเผชิญหน้า และยังเป็นโอกาสที่ดีในการขยายความร่วมมือไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ" ดร.พจน์ กล่าว
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากประเทศจีนจะเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะพี่น้องที่ช่วยเกื้อกูลและพึ่งพาอาศัยกันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม หอการค้าฯ ถือเป็นองค์กรภาคเอกชนไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 156,000 ราย รูปแบบการค้าสมัยใหม่ โดยเฉพาะ E-Commerce มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองประเทศ จีนถือเป็นต้นแบบที่ดีที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการผลิตและ Supply Chain การเข้ามาลงทุนของจีนในในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จีนจะช่วยให้ไทยสามารถยกระดับศักยภาพจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมของจีน
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน ยินดีสนับสนุนการจัดตั้งกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมาเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันของทั้ง 2 ประเทศ และก่อให้เกิดความแน่นแฟ้นในอนาคต โดยหอการค้าไทย-จีน ได้จัดตั้งสหพันธ์หอการค้าไทย-จีนและสมาคมธุรกิจต่างๆ กว่า 80 สมาคม เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารและโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า สร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ประกอบการชาวจีนในประเทศไทย