"ซัมซุง" เปิดตลาดทีวีจอยักษ์อัพไซต์ขนาด 85-98 นิ้ว รับเทรนด์คนไทยกว่า 26 ล้านคน หันดูคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์ม OTT TV เฉลี่ย 1.4 พันล้านชั่วโมงต่อเดือน

รายงานข่าวระบุ บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์แบรนด์ ซัมซุง (SAMSUNG)เผยว่าจากผลการศึกษาล่าสุดโดย The Trade Desk และ KANTAR ระบุคนไทยราว 26 ล้านคน เลือกใช้บริการแพลตฟอร์ม  OTT TV บริการให้รับชมภาพยนตร์, ซีรีย์ , คอนเทนต์ต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต 

โดยมีทั้งรูปแบบจ่ายค่าบริการ (Subscription) และให้ดูฟรีแต่มีโฆษณาด้วย (Advertising Video On Demand) มีการใช้เวลาไปกับแพลตฟอร์มดังกล่าวมากถึง 1.4 พันล้านชั่วโมงต่อเดือน รวมถึงการแข่งขันผลิตคอนเทนต์ที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีคอนเทนต์ในการเลือกรับชมที่หลากหลายและมีคุณภาพของความคมชัดมากขึ้นทั้ง 4K และ 8K

ทั้งนี้ จากเทรนด์ดังกล่าว ทำให้ความนิยมรับชมคอนเทนต์ทางทีวีเพื่อเพิ่มอรรถรสความบันเทิงขยายตัวมากขึ้น  ส่งผลให้นิยามคำว่า Super Size TV โทรทัศน์ทีวีจอใหญ่ จะไม่ใช่ขนาด 70 นิ้วอีกต่อไป โดยมาตรฐานใหม่ของ Super Size TV จากนี้ไปจะต้องมีขนาด 80 นิ้วขึ้นไป 

โดยในปี 2566 ซัมซุงหันมุ่งให้ความสำคัญพัฒนานวัตกรรมจอภาพและเสียงเพื่อรองรับรูปแบบไลฟ์สไตล์การรับชมคอนเทนต์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม และเน้นให้ความสำคัญกับไลน์อัพหน้าจอทีวีที่ใหญ่ขึ้น 85–98 นิ้ว ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ของทีวีขนาดยักษ์ โดยจะเน้นคุณภาพของภาพและเสียงของซัมซุงทีวีบนหน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อสร้างมุมมองและประสบการณ์ใหม่ ให้กับผู้บริโภค 

นอกจากนี้ ซัมซุง ยังให้ความสำคัญในการออกแบบสำหรับมืออาชีพที่ต้องการการสร้างสีที่ดีและความหนาแน่นของพิกเซลสูง เช่น ช่างภาพ นักตัดต่อวิดีโอ และนักออกแบบกราฟิก ด้วยจอภาพ Super Size TV ให้ความละเอียดสูงสุด ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้สามารถแสดงหลายแอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแอปฯ 
นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่า 41% ของผู้ตอบแบบสำรวจ ระบุว่าโต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบเรียบร้อย จะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังสอดคล้องกับสถานการณ์นิว นอร์มอล ทำให้การรับชมคอนเทนต์ผ่านทีวี กลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้าน จากเทรนด์การดูทีวีเพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน Samsung Super Size TV ยังจะเปิดใช้งานการเชื่อมต่อและใช้งานได้ด้วย MultiView ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานกับอุปกรณ์หลายเครื่อง เช่น พีซีและโน้ตบุ๊กได้พร้อมกัน เพื่อการทำงานหลายอย่าง (Multi Tasking) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว