‘แสนสิริ’ ปรับกลยุทธ์โครงการแนวราบ สร้าง 13 คอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัย เปิดตัว ‘SANSIRI 10 EAST’ สังคมระดับลักซูฯ แตกแบรนด์ใหม่ SIRINSIRI’ เจาะดีมานด์ Quiet Luxury รวยจริงไม่ตะโกนบอก
อาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ วางแนวคิดการทำตลาดโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้กลยุทธ์การสร้างสังคมแสนสิริ SANSIRI Community จำนวน 13 แห่ง ครอบคลุมทำเลโดยรอบกรุงเทพฯ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
โดยในเบื้องต้นจะพัฒนาโครงการฯ บนทำเลต่างๆ อาทิ ศาลายา-ปิ่นเกล้า ,วงเวียน-ลำลูกกา, ศรีวารี และ ศรีนครินทร์-แพรกษา ประกอบด้วย
- SANSIRI COMMUNITY WESTGATE (เวสต์เกต),
- SANSIRI COMMUNITY RAMA2-WONGWAEN (พระราม2-วงแหวน),
- SANSIRI COMMUNITY PRACHAUTHIT 90 (ประชาอุทิศ90),
- SANSIRI COMMUNITY RATCHAPRUEK-346 (ราชพฤกษ์-346)
- SANSIRI COMMUNITY RANGSIT-BANGPOON (รังสิต-บางพูน)
- SANSIRI COMMUNITY KRUNGTHEP-PRATHUMTANI กรุงเทพฯ-ปทุมธานี)
- SANSIRI COMMUNITY KRUNGTHEPKREETHA (กรุงเทพกรีฑา)
- SANSIRI COMMUNITY BANGNA-LAKE26 (บางนา-เลค26)
- SANSIRI 10 EAST (แสนสิริI 10 อีสต์)
“นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำแนวคิดการพัฒนาแสนสิริคอมมูนิตี้ บนทำเลเกาะแก้ว ภูเก็ต ที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีกหนึ่งแห่ง ด้วยเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพในการอยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวไทยที่มีแนวโน้มเติบโตสูงใน4 ปีนับจากนี้” อาณัติ กล่าว พร้อมเสริมว่า
สำหรับการพัฒนาโครงการภายใต้กลยุทธ์แสนสิริ คอมมูนิตี้ เป็นแนวคิดการนำแบรนด์ที่อยู่อาศัยแนวราบต่างๆ ที่อยู่ในพอร์ตระดับเดียวกันของแสนสิริ มารวมไว้ในสังคมอยู่อาศัยเดียวกัน เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าเพิ่มให้กับลูกค้าได้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด
“คอนเซปต์นี้มาจากการเก็บพฤติกรรมข้อมูลลูกค้าแสนสิริ เพื่อเป็นทางเลือกในการอยู่อาศัยในแสนสิริคอมมูนิตี้ อย่างเมื่อลูกค้าเข้ามาชมโครงการแล้วอาจมีความต้องการที่อยู่อาศัยอีกรูปแบบหนึ่งแสนสิริก็พร้อมนำเสนอแบรนด์อื่นที่อยู่ในคอมมูนิตี้มาให้ลูกค้าเลือก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์รักษาลูกค้าและเพิ่มโอกาสขายได้มากขึ้น ซึ่งแสนสิริต้องการแข่งกับตัวเองมากกว่า” อาณัติ ย้ำพร้อมเสริมว่า
โดยในแต่ละคอมมูนิตี้แสนสิริ ข้างต้นอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการแบ่งออกเป็นระยะ (Phase) ซึ่งจะยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของในทุกโครงการได้
SIRINSIRI เจาะกลุ่มรวยจริงไม่ต้องตะโกน!!
ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัว SANSIRI 10 EAST โครงการแนวราบในสังคมอยู่อาศัยระดับลักซูรี่ ระดับB+และแฟล็กชิป (Flagship) อยู่บนทำเลถนนบางนา-ตราด กม.10 มีพื้นที่รวมไม่ต่ำกว่า 165 ไร่ คิดเป็นมูลค่ารวมโครงการราว 18,000 ล้านบาท ภายในคอมมูนิตี้มีทั้งหมด 4 แบรนด์ ประกอบด้วย 3 แบรนด์เดิม คือ SETTHASIRI (มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท), NARASIRI (มูลค่าโครงการ3,900 ล้านบาท), BANN SANSIRI (Flagshipบ้านเดี่ยวแสนสิริ) และอีก 1 แบรนด์ใหม่ SIRINSIRI ที่อยู่ระหว่างพัฒนาการออกแบบ
อาณัติ กล่าวว่า “SIRINSIRI จะเป็นแบรนด์ใหม่ในพอร์ตโครงการแนวราบระดับลักซูรี่ วางบุคลิกลักษณะแบรนด์ให้ความหรูหรา-ภูมิฐาน มีความเป็นส่วนตัวสูง มากขึ้นอีกระดับ” พร้อมเสริมอีกว่า “แบรนด์ใหม่นี้ยังพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นไฟท์ติ้งแบรนด์ในแสนสิริเท็นอีสต์อย่างนาราสิริ ด้วยคาแรกเตอร์ให้การอยู่อาศัยในรูปแบบไควเอ็ท ลักซูรี่ (Quite Luxury) กลุ่มผู้มั่งคั่งที่ต้องการบรรยากาศสงบเงียบสูง ซึ่งจากการสำรวจพบว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อที่น่าสนใจ”
สำหรับคอมมูนิตี้ ‘แสนสิริ 10 อีสต์’ ในแต่ละโครงการทั้ง 4 แบรนด์จะวางราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 25-500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโครงการแรกเศรษฐสิริ บางนา กม.10 รอบพรีเซลล์ ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย.นี้
โดยภาพรวมโครงการฯ ทั้งหมด มีจุดเด่นด้านทำเลศักยภาพตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่มีความพร้อมทั้งระบบคมนาคมเชื่อมต่อกรุงเทพฯ-และภาคตะวันออก และเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองธุรกิจภายใน 30 นาที รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในรัศมีโดยรอบ
นอกจากนี้ศักยภาพของบางนา จะยังเป็นทำเลทองของเศรษฐกิจเชื่อมโลจิสติกส์ ระหว่างโรงงานในระดับภูมิภาคตั้งบนเส้นทางสุขุมวิทและอีอีซี จากปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยราว 1,190,000 คน , ประชากรหน้าใหม่ 250,000 คน, จำนวน 180,448 ครัวเรือน, โรงพยาบาล 11 แห่ง, สำนักงานเกรดเอ 7 แห่ง, โรงงานโดยรอบ 1,066 แห่ง, โรงเรียนและมหาวิทยาลัย 107 แห่ง และ โรงเรียนนานาชาติ 17 แห่งด้วยจำนวนนักเรียนทั้งหมดราว 88,848 คน
อาณัติ กล่าวว่า “แสนสิริ 10 อีสต์คาดใช้ระยะเวลาพัฒนาแล้วเสร็จสมบูรณ์ได้ครบทุกเฟสและแบรนด์ภายใน 7 ปี โดยโครงการฯนี้จะยังเป็นอีกหนึ่งแผนงานสำคัญของแสนสิริ เพื่อทำตลาดในปี 2568 ด้วย”
‘ลักซูรี่ ฟูลเซอร์วิส’ หนุนผู้นำพอร์ตบ้านหรู
อาณัติ กล่าวว่า ปัจจุบันแสนสิริถือเป็นเป็นหนึ่งในสาม (Top3) ผู้นำการพัฒนาโครงการแนวราบระดับลักซูรี่ ในกลุ่มลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูงที่ให้ความเชื่อใจอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การบริการหลังการขายในระดับคุณภาพสูง ซึ่งได้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พันธมิตรธุรกิจในเครือฯ เป็นผู้บริหารจัดการความต้องการระดับลักซูรี่ (Luxury Management) ด้านต่างๆให้กับผู้อยู่อาศัย จากบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมด้านฮอสพิทาลิตี้ รวมทั้งทักษะด้านอื่นๆ ทั้ง ภาษาต่างประเทศ อังกฤษ, จีน และอื่นๆ
“ปัจจุบันบุคลากรด้านฮอสพิทาลิตี้ระดับลักซูรี่หายากมาก ซึ่งบุคลากรผู้ให้บริการในพอร์ตลักซูรี่ของแสนสิริ จะได้ค่าตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาทต่อเดือน เพื่อจูงใจในการร่วมงานด้านดังกล่าว” อาณัติ กล่าว
พร้อมเสริมว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาฯโครงการแนวราบระดับลักซูรี่ของแสนสิริ ทำตลาดในกลุ่มเป้าหมายเวลทธ์ ทั้งซื้ออยู่อาศัย และการลงทุน เพื่อปล่อยเช่าและขายต่อตามมูลค่าราคาที่ดินที่ขยับขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากบรรยากาศและสถานการณ์เศรษฐกิจในรอบปี 2567 ที่ชะลอตัวในบางกลุ่ม ทำให้ในปี2568 บริษัทฯ วางแผนปรับสัดส่วนการทำตลาดใหม่ โดยจะเพิ่มน้ำหนัการทำตลาดมากขึ้นในกลุ่ม Luxury จากปัจจุบันมีสัดส่วน 30% กลุ่ม Medium เพิ่มเป็น 40% จากเดิมอยู่ที่ 30% และกลุ่ม Affordable ปรับลดลงอยู่ที่ 20% จากเดิมอยู่ที่ 30% พร้อมหยุดการพัฒนาชั่วคราวสำหรับแบรนด์ สิริเพลส (SIRI Place) โดยในรอบปีนี้ที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯลักซูรี่มีอัตราเติบโตสูงอยู่ที่ 15-20% และยังมีความต้องการต่อเนื่องด้วยตลาดกลุ่มนี้จะยังมีความต้องการสูงต่อเนื่องอีก 4 ปีนับจากนี้
"ในรอบปี67 นี้ เป็นช่วงพีกของตลาดอสังหาฯลักซูรี่" อาณัติ ย้ำ
สำหรับผลดำเนินงานล่าสุด (YoY) บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 31,000 ล้านบาท และยอดโอน 30,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 77% ของเป้าหมายที่วางไว้ และจาการจัดกิจกรรมทางการตลาดภายใต้แคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ จะผลักดันรายธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ โดยในไตรมาส4 ปีนี้คาดมีรายได้8,000 ล้านบาท