แม็คกรุ๊ป แผนปี68 ลงทุน 100 ล.บาท ขยาย/ปรับโฉมใหม่สาขาทั่วประเทศ 600 แห่ง ย้ำกลยุทธ์ตลาดผ่านแบรนด์แอมฯทรงพลัง หนุนแบรนด์แฟชั่นไทยแกร่ง ‘ทำถึง’ลูกค้าเจนฯใหม่

เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดค้าปลีกแฟชั่นแมคยีนส์ (Mc Jeans) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปีงบประมาณ 2568        บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขา และเตรียมปรับโฉมใหม่สาขา (Renovate) จำนวน 80 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขารวมเกือบ 600 สาขา และอีก 50 ล้านบาทใช้งบลงทุนงานระบบ

“แผนลงทุนดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการทำตลาดแม็คยีนส์ในปีหน้า เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในการเลือกซื้อไอเทมสินค้าต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น” เจมส์ กล่าว พร้อมเสริมว่า  

ทั้งนี้ แม็คกรุ๊ป ยังมุ่งพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อตอกย้ำแบรนด์ยีนส์อันดับ 1 ของไทยในฐานะผู้นำตลาด Jeans All Gen หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวแม็คยีนส์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ‘อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม’ และ ‘อนันดา เอเวอริงแฮม’ ตัวแทนถ่ายทอดแบรนด์คอนเซ็ปต์หลักของแม็คยีนส์ ‘My Mc My Way ชีวิต...เต็มแม็ค’ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าในทุกเจเนเรชั่น

เจมส์ กล่าวอีกว่า “จากประสบการณ์ และความชำนาญในการดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 49 ปีของแม็คกรุ๊ปบวกกับจุดแข็งที่เข้าใจในทุกสรีระและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค พร้อมมุ่งพัฒนาสินค้าคุณภาพ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอมา ส่งผลให้แม็คยีนส์ ครองแชมป์แบรนด์ยีนส์ อันดับ1 ของไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยเรามียีนส์ที่ตอบโจทย์ทุกเจเนเรชั่น ทุกไลฟ์สไตล์”

ด้วยหลักการดำเนินธุรกิจดังกล่าวของแม็คกรุ๊ป เป็นส่วนหนึ่งผลักดันให้เป็นแบรนด์แฟชั่นของคนไทยที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดแฟชั่นจากประเทศจีนที่ใช้กลยุทธ์ราคาประหยัดเข้ามาทำตลาด

ทั้งนี้ จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566  ณ ห้องประชุมเอนกประสงค์ แม็คสตูดิโอ บริษัท แม็คกรุ๊ป จํากัด (มหาชน) เลขที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 5 แขวงประเวศ ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยมี นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร ประธานกรรมการบริษัท เป็นประธานที่ประชุม นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร และรองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายลักษณะน้อย พึ่งรัศมี ประธานกรรมการตรวจสอบเข้าร่วมประชุม

โดยมีวาระสำคัญ รายงานและขออนุมัติ งบประจำปี 2566/2567 ซึ่งเป็นปีที่มีผลดำเนินงานท็อปฟอร์มต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาทหรือ 10.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 644 ล้าน มีอัตรากำไรสุทธิ 17.3% รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในระดับสูงที่ระดับ 64.2% และบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า รวม 4,054   ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384 ล้านบาท หรือ 10.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 3,670 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี

นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นมีมติเอกฉันท์อนุมัติจ่ายเงินปันผลตามที่มติคณะกรรมการบริษัทนำเสนอให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลดำเนินงานปีบัญชี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท โดยเงินปันผลดังกล่าว บริษัทฯ ได้มีการจ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 คงเหลือเป็นเงินปันผลจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามข้อบังคับของบริษัท ตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 (จะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567) โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567                และในทุกๆ ปี บริษัทฯ จะจ่ายปันผลเกือบ 100% เกินนโยบาย

ทั้งนี้ เจมส์ ยังได้กล่าวกับผู้ถือหุ้นว่าคณะผู้บริหารได้ให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นถึงแนวทางในการทำธุรกิจปีบัญชี 2567/2568 (1 กรกฎาคม 2567 – 30 มิถุนายน 2568) ว่า จากแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีบัญชีนี้ เติบโตได้ต่อเนื่องและมีความยั่งยืน รวมถึงการมีฐานลูกค้าสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณ      5 หมื่นจนถึง 1 แสนคน จากในปัจจุบันฐานสมาชิกประมาณ 1.7 ล้านคน ยอดขายประมาณ 80% จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถือหุ้น MC ไฟเขียวจ่ายปันผล ปีบัญชี 2566/2567 หุ้นละ 0.90 บาท