เซ็นทรัลแล็บไทย จับมือ BOP เสริมองค์ความรู้การสร้างมาตรฐานสินค้าเพื่อการส่งออก เพื่อป้องกันสินค้าตีกลับ
เซ็นทรัลแล็บไทย เสริมความรู้ส่งออก ป้องกันสินค้าตีกลับ
เซ็นทรัลแล็บไทย จับมือ BOP เสริมองค์ความรู้การสร้างมาตรฐานสินค้าเพื่อการส่งออก เพื่อป้องกันสินค้าตีกลับ
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย ร่วมกับ บริษัท บีโอพี เอ็กซ์เพรส จำกัด จัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างมาตรฐานเพื่อการส่งออก สร้างองค์กรความรู้ให้กับผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนามาตรฐานสินค้าและการสนับสนุนทางธุรกิจ และเปิดจุดรับตัวอย่างสำนักงานสาขาฉะเชิงเทรา ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีนายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการ เซ็นทรัลแล็บไทย นายสมชาติ ศรีเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาฉะเชิงเทรา และนางภษิมา ชาภักจานนท์และนายธนัช ชาภักจานนท์ บริษัท บีโอพี เอ็กซ์เพรส จำกัด และนายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมงาน โดยได้รับเกียรติจากนายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษ ถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่อำเภอแหลมฉบังรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา กล่าวว่า อำเภอศรีราชา ถือเป็นพื้นที่เศรษกิจสำคัญของประเทศ รองจากรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะภาคการส่งออก มีท่าเรือแหลมฉบังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของการขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคต่าง ๆ มีการขยายด้านการคมนาคมรองรับการเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาส่งเสริมสนับสนุนภาคการเกษตร และการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาบุคลากรทุกช่วงวัย และผู้ประกอบการ ให้ตระหนักถึงการสร้างมาตรฐานของสินค้า เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ ซึ่งจังหวัดชลบุรี มีเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองนวัตกรรม เศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียนตามแผนทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC
โดยประเด็นสำคัญของการเสวนาเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างมาตรฐานเพื่อการส่งออก คือ การให้องค์ความรู้ผู้ประกอบการในเรื่องข้อกฎหมายที่ควรตระหนัก โดยเฉพาะการตรวจมาตรฐานสินค้าตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยนายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า บทบาทสำคัญของท่าเรือแหลมฉบับคือ ทำหน้าที่ให้บริการด้านเรือ การขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการโลจิสติกส์ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการบางรายจะถูกประเทศต้นทางตีกลับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการ แต่ด้วยท่าเรือแหลมฉบังไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตรง ทำได้เพียงให้คำแนะนำ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการชี้แจงให้ผู้ประกอบการทำตามข้อกฎหมายที่กำหนด ทั้งในประเทศและต่างเทศ ดังนั้นความร่วมมือระหว่าง เซ็นทรัลแล็บไทย และ บีโอพี จึงมองว่าเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการในการตรวจสอบสินค้าให้ถูกต้องก่อนนำเข้า-ส่งออกไปยังประเทศปลายทาง เพื่อลดปัญหาการตีกลับสินค้า ที่จะส่งผลสูญเสียไปยังผู้ประกอบการอย่างมหาศาล
“สำหรับทิศทางในอนาคต มองว่าการส่งออกกำลังจะขยายตัวมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมพร้อมรับมือการขนส่งทางเรือที่จะเพิ่มขึ้น ด้วยการขยายและปรับปรุงท่าเทียบเรือให้มากขึ้น อีกทั้งยังขยายพื้นที่การขนส่งภายในท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด”ผอ.สำนักปฏิบัติการ ท่าเรือแหลมฉบัง
โดยนางภษิมา กล่าวว่า บีโอพี ดำเนินการธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าทั่วโลก พบปัญหาสำคัญคือ มาตรฐานสินค้า โดยเฉพาะการรับรองทางห้องปฏิบัติการที่ต้องใช้เวลานาน ทำให้ไม่ทันต่อช่วงอายุของสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มเน่าเสียง่าย อาทิ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล รวมไปถึงระยะเวลาการขอขึ้นทะเบียนจากภาครัฐ
“ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขอใบอนุญาตเกี่ยวกับสินค้านำเข้า-ส่งออก ที่ต้องประสานหลายหน่วยงาน ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ใบอนุญาตครบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจากความร่วมมือระหว่าง บีโอพี และ เซ็นทรัลแล็บไทย จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการข้อใบอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ ที่ต้องใช้ประกอบการนำเข้าและส่งออก ตามข้อกำหนดหรือกฎหมายของแต่ละประเทศ” นางภษิมา กล่าว
ด้านนายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เซ็นทรัลแล็บไทย พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจภาคการส่งออก ที่สอดคล้องกับพันธกิจบริษัท ในการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าเกษตร และอาหาร ทั้งนำเข้าและส่งออก เน้นให้บริการแก่ภาคธุรกิจ ด้วยความเชื่อมั่นในการตรวจสอบและรับรองและสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความถูกต้อง แม่นยำ ในการตรวจวิเคราะห์ เพื่อสร้างความมั่นใจในสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยทั้งทางด้านมาตรฐานและความปลอดภัย และ จากการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 20 ปี เซ็นทรัลแล็บไทย ให้บริการลูกค้ามามากกว่าปีละ 300,000 ตัวอย่าง สนับสนุนภาคธุรกิจครอบคลุมทุกรายการ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเราได้ขยายขอบข่ายการให้บริการในด้านอื่น อาทิ บริการสอบเทียบเครื่อง,งานฝึกอบรมทางห้องปฏิบัติ,งานตรวจประเมินและรับรองกระบวนการผลิต GAP,GMP/HACCP และบริการที่ปรึกษาระบบ ISO/IEC 17025