การส่งออกสินค้าเกษตรไทย เสี่ยงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น
Krungthai COMPASS ประเมินว่า มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในไตรมาส 3 อยู่ที่ 13,446 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 4.8 แสนล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องที่ 9.8%YoY หลังจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 5.8%YoY โดยสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว ไก่ ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร ส่วนสินค้าที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย
สำหรับสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา (55.9%YoY) ขยายตัวจากราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้นและคำสั่งซื้อยางตามมาตรฐาน EUDR ที่เติบโต ส่วนข้าว (25.2%YoY) ได้รับอานิสงส์จากความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหาร และนโยบายจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยง (24.3%YoY) ได้รับผลบวกจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
Krungthai COMPASS มองว่า ในระยะข้างหน้าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทยจะยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้น คาดจะกดดันมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินบาท รวมถึงความท้าทายจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และมาตรการสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าที่เข้มงวดขึ้นอาจกดดันอัตรากำไรของผู้ประกอบการ