'Revolution Magazine' นิตยสารนาฬิกาจากสิงคโปร์เข้ามาไทยเป็นครั้งแรก รับเทรนด์ใหม่ นักลงทุนหันสะสมนาฬิกามีดีไซน์ เรื่องราว นวัตกรรม แทนการซื้อเพื่อเก็งกำไร
อาลี ซีอานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิเซน จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์นิตยสารชั้นนำในประเทศไทย และผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารจัดการดิจิทัลแพลตฟอร์ม, คอนเทนต์ และอินฟลูเอนเซอร์ เอ็กซ์เปิร์ด ดีเดย์ เปิดเผยว่าล่าสุดบริษัทฯ บริหาร ‘Revolution Magazine’ นิตยสารเพื่อคนรักนาฬิกาสัญชาติสิงคโปร์ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและระดับโลก ได้เข้ามาเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรก
สำหรับการเข้ามาของ 'Revolution Magazine' ด้วยมองเห็นศักยภาพตลาดนาฬิกาในประเทศไทยที่เติบโตสูง และตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าวทั้งในกลุ่มผู้ชื่นชอบสะสมนาฬิกา โดยเฉพาะนาฬิกาหรูที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
อาลี กล่าวแนะนำ 'Revolution Magazine' ก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2005 โดย 'Wei Koh' และ 'Bruce Lee' มีจุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบและหลงใหลนาฬิกาของทั้งคู่ กระทั่ง 'Revolution Magazine' กลายเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและระดับโลก โดยมีวางขายใน 10 กว่าประเทศ ซึ่งถูกตีพิมพ์ถึง 6 ภาษาใน 12 เวอร์ชัน ได้แก่
- มาเลเซีย
- ออสเตรเลีย
- จีน
- ฮ่องกง
- อิตาลี
- ลาตินอเมริกา
- เม็กซิโก
- ตะวันออกกลาง
- รัสเซีย
- สวิตเซอร์แลนด์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐฯ
โดยมีการขยับขยายรูปแบบโมเดลธุรกิจ ผสมผสานแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เข้าใกล้ผู้อ่านได้ดียิ่งขึ้น
อาลี กล่าวว่า “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นบวกกับเทรนด์คนรักนาฬิกาที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญทำให้ 'Revolution Magazine' เข้ามาในประเทศไทย โดยนิตยสารฉบับนี้เป็นรายไตรมาส ตอบสนองความนิยมและการเติบโตของตลาดนาฬิกาในไทยที่เพิ่มขึ้น”
นอกจากนี้ Revolution Magazine ยังมีส่วนของเนื้อหาและรายละเอียดเกี่ยวกับนาฬิกาที่ลึกซึ้งและมีคุณภาพ ด้วยคอนเทนต์มีมุมมองที่แตกต่าง เข้มข้น ไม่เหมือนใคร มาเชื่อมโยงความชื่นชอบของกลุ่มนักอ่านชาวไทย
โดยจุดแข็งของนิตยสารดังกล่าว คือเนื้อหาที่เป็นมากกว่าการรีวิว มีการสำรวจมิติเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกา ทำให้ 'Revolution Magazine' แตกต่างจากสื่อเจ้าอื่นๆ ในตลาด โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้อ่านแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนกลุ่มที่ซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุนและสะสม, กลุ่มนักสะสมซึ่งมีกำลังซื้อสูง เน้นสะสมนาฬิกาที่เป็น Limited, Rare และ Vintage และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแฟชั่นซึ่งสนใจในนาฬิการุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งออกสู่ตลาด
อาลี กล่าวว่า “ตลาดนาฬิกาในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างสูง ตอนนี้เทรนด์การซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุนเริ่มลดลง คนไม่ได้มองหานาฬิกาเพื่อเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เริ่มให้ความสนใจนาฬิกาที่มีเรื่องราว นวัตกรรม และคุณค่าที่แท้จริงมากขึ้น” พร้อมเสริมว่า “กลุ่มนักสะสมเริ่มสนใจแบรนด์ที่มีดีไซน์โดดเด่น มีสตอรี่ที่น่าติดตาม ซึ่งเทรนด์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนสอดคล้องกับทิศทางของ 'Revolution Magazine' ด้วยมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ช่วยให้คนรักนาฬิกาเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี"
นอกจากนี้ ในปัจจุบันเทรนด์นาฬิการะดับโลกเน้นเรื่องความยั่งยืน ดีไซน์วินเทจ และการสร้างฟังก์ชันใหม่ๆ ให้โดดเด่น รวมถึงความนิยมในนาฬิกาแบรนด์อิสระ และรุ่นที่ทำออกมาในจำนวนจำกัด ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ตรงกับตลาดไทยที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจสะสมนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์และมีเรื่องราวพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มนักสะสมที่อยากได้ของที่มีคุณค่าและโดดเด่น
อาลี กล่าวทิ้งท้ายว่า 'Revolution Magazine' จะทำหน้าที่ในการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนรักนาฬิกาในไทยได้ครบถ้วน ไม่ใช่แค่การรีวิวสินค้า แต่ยังรวมไปถึงเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จของนาฬิกาแต่ละแบรนด์ รวมถึงยังมีบทสัมภาษณ์พิเศษของผู้ก่อตั้งและช่างทำนาฬิกาที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ เพื่อทำให้นาฬิกาเป็นมากกว่าของหรูหรา ทว่า เป็นชิ้นงานที่มีเรื่องราวและความตั้งใจซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังด้วยนั่นเอง
โดย 'Revolution Magazine' ในรูปแบบออนไลน์เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป และเปิดให้พรีออเดอร์นิตยสาร 'Revolution Magazine' ฉบับภาษาไทยฉบับแรกด้วยราคา 200 บาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 2568