‘พิชัย’จับมือเอกชน ขับเคลื่อน 10 นโยบาย ตั้งเป้าส่งออกปี 68 ทะลุ 10 ล้านล้านบาท เร่งเจรจา FTA ทุกประเทศเพิ่มมูลค่าการค้า สร้างรายได้เข้าประเทศ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมวางเป้าหมายทำงานในการผลักดันการส่งออกปี 2568 ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ภาครัฐเร่งทำงานเชิงรุกร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การส่งออกไทยขยายตัว ทำเงินเข้าประเทศ และปรับตัวคว้าทุกโอกาสการค้า เพื่อคนไทย ในทุกวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น
การประชุมครั้งนี้ได้ให้ตัวแทนทูตพาณิชย์ ใน 7 ภูมิภาค นำเสนอแผนผลักดันการส่งออกผ่านระบบ zoom และรับฟังข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนด้วย โดยภาคเอกชนชื่นชมที่กระทรวงพาณิชย์สามารถเจรจา FTA ไทย-เอฟตาจบลงได้ จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าต่อไป และในอนาคตจะเร่งเจรจา FTA กับอียู และอังกฤษ ให้มีเขตการค้าเสรีหรือ FTA เกิดขึ้นให้มากที่สุด
สำหรับในปีนี้คาดว่าโอกาสที่การส่งออกจะทะลุ 5% มีสูง อาจจะทะลุ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 10 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยปีหน้าได้กำหนด 10 นโยบาย ในการผลักดันการส่งออกไทย ประกอบด้วย
1.ผลักดันการส่งออก ปี 2568 คาดว่าการส่งออกจะเติบโตได้ 2-3% ซึ่งหวังว่าจะทำได้มากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าตอนนี้มีหลายอุตสาหกรรมที่แห่เข้ามาลงทุนในไทย
2.ไวต่อสถานการณ์ การค้าและการลงทุนเรื่องที่กังวลในประเด็นสหรัฐฯจะขึ้นภาษี ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งเจรจาโดยในเดือนกุมภาพันธ์ ตนจะมีโอกาสพบกับผู้บริหารชุดใหม่ของอเมริกา จะไปอธิบายว่าประเทศไทยไม่ควรโดนภาษีเพิ่มเพราะไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าให้อเมริกา
3.เศรษฐกิจไทย กลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง ซึ่งตนเชื่อว่าทุกวิกฤติเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย และในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นจะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น หรือ METI และพบกับภาคเอกชนจะเชิญชวนให้มาลงทุนในไทย
4.ไทยพร้อมทำ FTA กับทุกประเทศ เพื่อเร่งขยายการค้า ทำเงินเข้าประเทศ 5.พร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ เศรษฐกิจไทยต้องโตอย่างต่ำ 5% ไปอีกปี 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ต้องพร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทั้งเซมิคอนดักเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์
6.รีแบรนด์ Thai SELECT ให้เข้าใจง่ายคล้ายมิชลินสตาร์ และโปรโมทส่งออกสินค้าระดับ Think Thailand NEXT LEVEL ไม่ขายวัตถุดิบอย่างเดียว แต่จะขายสินค้าสำเร็จรูปที่มีมูลค่าสูงให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
7.สร้าง Thailand Brand การันตีสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อและร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนผู้ประกอบการ SME
8.ดึงดูดคนทั่วโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ใช้เสน่ห์ของไทย ทำให้มีจุดขาย 9.ทูตพาณิชย์ต้องมองโอกาสใหม่ๆร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด ช่วยส่งเสริมธุรกิจของไทยผู้ประกอบการไทย
และ10.กระทรวงพาณิชย์ ยุค 80:20 โดย 80% สนับสนุนภาคเอกชนส่งเสริมให้การค้าขายของเราให้เจริญรุ่งเรืองและอีก 20% ทำหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้การเกิดค้าขายที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน
“ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนมีความร่วมมือที่ดีกันมาโดยตลอด ทางเอกชนเสนอว่าควรมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุก 3 เดือน หรือถ้าฉุกเฉินก็สามารถคุยกันได้ทันทีเพื่อเร่งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยเติบโต เพราะเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยเอกชน กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริมให้เอกชนทำให้การค้าการขายคล่องขึ้นส่งของได้มากขึ้น”
ด้านตัวแทนภาคเอกชน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าฯขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรีและกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้น ทำให้ปีนี้การส่งออกไทยโตขึ้นถึง 5% มากกว่าที่คาดไว้ และในปีหน้าคาดว่าเราจะเติบโตต่อได้อีก ซึ่งอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นในวันนี้เชื่อว่าจะมีโอกาสให้กับไทยในหลายเรื่อง ทางกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนการส่งออกของเศรษฐกิจไทย ถ้าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรมากน่าจะไม่มีปัญหา
นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้หารือกันกับกระทรวงพาณิชย์เกือบทุกเรื่อง มีการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งตัวเลขการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ และแผนงานด้าน FTA มีความคืบหน้าและมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มเติม เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับประเทศ
ขณะที่นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกในปีนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศสูงที่สุดในประวัติการณ์มากกว่า 10 ล้านล้านบาท มาจากการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างภาครัฐกับเอกชน และท่านรัฐมนตรีมีนโยบายที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับเอกชนทั้งการผลักดัน FTA และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าอย่างจริงจังและรวดเร็ว โดยในปีหน้าเราต้องทันเหตุการณ์และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทย