กฟผ.หวั่นขาดถ่านหินป้อนแม่เมาะกำลังผลิตหาย 800 เมกะวัตต์ เตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าก๊าซฯแทน ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายนำเข้า LNG เพิ่ม 1,380 ล้านบาท
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กฟผ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ขึ้นมาเพื่อพิจารณาสอบข้อเท็จจริง ภายหลังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน มีหนังสือสั่งการให้ กฟผ. ระงับการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สัญญาที่ 8/1 ด้วยวิธีพิเศษ จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้วเสร็จ
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากหลังบริษัทสหกลอิควิปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลงานมูลค่าสัญญา 7,170 ล้านบาท ขณะที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ได้ยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรม ในการจัดซื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตามคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 30 วัน หลังจากนั้นนำเสนอเข้าพิจารณาในบอร์ด กฟผ. ต่อไป
ปัจจุบันสัญญาถ่านหินที่ 8/1 กำลังจะสิ้นสุดลง และทำให้สัญญาถ่านหินที่ 9 ต้องล่าช้าออกไป ส่งผลให้ปริมาณการผลิตถ่านหินไม่เพียงพอป้อนเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าหายไป 600-800 เมกะวัตต์ ดังนั้นต้องมีการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าก๊าซทดแทน และต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มูลค่ารวม 1,380 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า 8 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากฟผ.ได้ช่วยรับภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชนมาต่อเนื่อง โดยมียอดหนี้ค้างค่าไฟอยู่ 8 หมื่นล้านบาท แต่ภาพรวมสภาพคล่องกฟผ.ไม่ได้มีปัญหาโดยยังมีกระแสเงินสด 5-6 หมื่นล้านบาท สามารถบริหารจัดการได้