‘ซีอีโอ’ ทอยส์ "อาร์"อัส เอเชีย ยก ‘ไทย’ ตลาดยุทธศาตร์สำคัญในภูมิภาคฯ ปรับพอร์ตสินค้าเจาะกลุ่ม ‘คิดดัลต์’ คนโตหัวใจเด็กพร้อมเปย์หนักรับตลาดของเล่นโตแรงแซงจีดีพี
เมื่อสินค้าของเล่นและเกมในประเทศไทย จะไม่ใช่ ‘ตลาดเล่นๆ’ อีกต่อไป จากแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 7.5% ต่อเนื่อง 5 ปีหน้า แถมยังขยายตัวสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หลัง ‘สภาพัฒน์’ คาดในปี 2567 นี้ จีดีพีไทยขยายตัวได้ 2.6%
แนวโน้มดังกล่าว เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘ลีโอ ชอย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทอยส์"อาร์"อัส เอเชีย (Toys"R"Us Asia) เครือร้านขายของเล่นระดับโลกภายใต้แบรนด์ Toys Я Us วางแผนธุรกิจเชิงรุกในไทย พร้อมยกให้เป็นตลาดยุทธศาสตร์ (Strategic Market) ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลีโอ กล่าวว่า “ไทย จะเป็นตลาดสำคัญในแผนกลยุทธ์ระดับภูมิภาคฯ ของ ทอยส์"อาร์"อัส เอเชีย ด้วยมองเห็นโอกาสจากปัจจัยประชากรวัยเยาว์ที่กำลังเติบโตและการขยายตัวของเมือง ทำให้ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยอุตสาหกรรมของเล่นและเกมในไทย คาดจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีราว 7.5% (CAGR) ต่อเนื่องในอีกห้าปีข้างหน้า”
ขณะเดียวกัน จากความหลากหลายของประเทศไทย และยังเต็มไปด้วยความท้าทายในวงการค้าปลีกทำให้ไทยเป็นตลาดที่สมบูรณ์แบบสำหรับนวัตกรรมอีกด้วย
รีเฟรชแบรนด์-ขยายฐานใหม่
ลีโอ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์ในการฟื้นฟูแบรนด์ Toys"R"Us เพื่อให้มีความเกี่ยวข้องในตลาดค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเน้นสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายใน 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ
- กลุ่มครอบครัว
- กลุ่มคนทำงาน
- นักท่องเที่ยว
โดยมีจุดเด่นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ ยังจะสะท้อนผ่านการเปิดตัวร้านสาขาแฟล็กชิป ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ซึ่งเป็น คอนเซ็ปต์ สโตร์ (concept store) ใหม่ภายใต้แนวคิด ‘Playful Heartland’ด้วยแนวคิด ที่รวมเอาความสวยงามในแบบมินิมัลลิสต์และพื้นที่อินเทอร์แอคทีฟเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครไว้ในที่เดียวกัน
ลีโอ บอกว่า "เราไม่ใช่แค่ร้านขายของเล่นแล้ว แต่เราเป็นจุดหมายปลายทาง (destination) ที่ให้ผู้คนได้ค้นพบความสนุกสนานจากการเล่นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่"
เจาะกลุ่ม คิดดัลต์ (Kidult)
ลีโอ กล่าวต่อถึงตลาดคิดดัลต์ ‘Kidult’ กลุ่มผู้ใหญ่ที่รักการเล่นของเล่น ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากจำนวนประชากรไทยอายุน้อยกว่า 35 ปีมีสัดส่วนกว่า 40% ทำให้ Toys"R"Us Asia กำลังปรับตัวเพื่อให้บริการกลุ่มนี้
โดยมองตลาด ‘Kidult’ เป็นกลุ่มที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งผสมผสานความคิดถึงในอดีตกับกระแสสมัยใหม่ โดยกลุ่มสินค้าหลักสำหรับเจาะตลาดลูกค้ากลุ่ม คิดดัลท์ (kidult) ได้แก่
- สินค้าแฟชั่น (fashionable): ความร่วมมือกับนักออกแบบและสัญลักษณ์จากวงการป็อปคัลเจอร์ (pop culture) เพื่อสร้างสินค้าแฟชั่นใช้ได้จริง
- สินค้าเก็บสะสม (collectible): ฟิกเกอร์รุ่นลิมิเต็ด, โมเดล และของที่ระลึกจากแบรนด์ยอดนิยมต่างๆ เช่น หมวกทรานส์ฟอร์มเมอร์ (Transformers) เป็นต้น
- สินค้าที่ใช้ได้จริง (usable): สินค้าที่มีฟังก์ชันและใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน พร้อมยังคงความสนุกสนาน
โดบพบว่าความสำเร็จของสินค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่ Kidult เช่น กล่องสุ่ม (Blind Box) และสินค้ารุ่นลิมิเต็ดที่ได้รับความสนใจผ่านสื่อโซเชียล อีกด้วย
ความท้าทาย 'เด็กเกิดใหม่ลดลง'
จากแนวทางดังกล่าว ส่วนหนึ่งยังมาจากปัจจัยอัตราการเกิดที่ลดลงในประเทศไทย ซึ่งมองว่า ‘จะเป็นความท้าทาย’ สำหรับตลาดของเล่นแบบดั้งเดิม แต่ทั้งนี้เปิดโอกาสให้ Toys Я Us มุ่งขยายตลาดไปสู่กลุ่มคิดดัลต์ Kidult มากขึ้น
ลีโอ กล่าวว่า “ปัจจุบัน Toys Я Us มีรายได้จากกลุ่มคิดดัลต์ ประมาณ 1 ใน 8 แต่เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในตลาดนี้ และคาดว่ากลุ่มนี้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของธุรกิจทั้งหมดในอนาคต การปรับตัวนี้ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงกลุ่มอายุเดียวเท่านั้น”
ร่วมทำงานพันธมิตรท้องถิ่น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนร่วมมือกับนักออกแบบและศิลปินชาวไทย เพื่อสร้างคอลเลกชันพิเศษที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทย ซึ่งจะช่วยเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้งและเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นได้มากขึ้น ในอนาคตด้วย
ลูกค้าเด็ก-ครอบครัวยังโฟกัส
อย่างไรก็ตาม แม้จะเพิ่มสินค้าในกลุ่ม Kidult แต่ ทอยส์"อาร์"อัส (Toys"R"Us) จะยังมุ่งให้ความสำคัญกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มเด็กและกลุ่มครอบครัว โดยนำคอนเซ็ปต์ สโตร์ โฉมใหม่ ซึ่งจะมีพื้นที่เล่น, สินค้ารูปแบบใหม่, และสินค้ารายการพิเศษเฉพาะภายในร้าน เช่น เรนโบว์ คอง (Rainbow Kong) ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเยาวชน ซึ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ครอบครัวสามารถร่วมสนุกและมีเวลาคุณภาพร่วมกัน
ใช้ ‘เอไอ’ วางกลยุทธ์
นอกจากนี้ Toys"R"Us Asia ยังให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยปรับปรุงรูปแบบร้าน, สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้แก่ลูกค้า และช่วยวางแผนการตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รวมถึงความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายพอร์ตสินค้าของบริษัทและทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
3 กลยุทธ์ชิงกำลังซื้อตลาดปี68
ลีโอ กล่าวต่อว่า ในปี 2568 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ในอัตราระดับเลขหลักเดียว (single-digit growth) เป็นผลมาจากการมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยในอนาคต มีแผนเพิ่มสัดส่วนของตลาด คิดดัลท์ (Kidult) จาก 1/8 เป็น 1/3 พร้อมกับการรักษาการเติบโตในหมวดหมู่ของเล่นดั้งเดิม ผ่านแผนกลยุทธ์หลักๆ อันประกอบไปด้วย:
- การเปิดร้านใหม่ในทำเลกลยุทธ์
- การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่สนุกสนานและไร้รอยต่อ
- การเปิดตัวสินค้าพิเศษเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า
"แก่นแท้ของ Toys"R"Us คือความสุข" ภารกิจของเราคือการนำความสุขนี้ไปให้กับคนจำนวนมากที่สุดในรูปแบบที่ไม่คาดคิด" ลีโอ กล่าวพร้อมทิ้งท้ายว่า
บริษัทฯ ยังวางแผนที่จะขยายสาขาในทำเลที่มีความพลุกพล่าน และปรับปรุงร้านที่มีอยู่ เช่น การปรับปรุงสาขา ไอคอน สยาม (Icon Siam) ที่กำลังจะจัดงานเปิดร้านอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง (re-opening) ในวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้