เปิดนอกญี่ปุ่นครั้งแรกในโลก โรงแรมโอกุระห้องพัก 'เรียวกัง' AWC ลงทุน 7.6 พันล. เชียงใหม่-กรุงเทพฯ

เปิดนอกญี่ปุ่นครั้งแรกในโลก  โรงแรมโอกุระห้องพัก 'เรียวกัง' AWC ลงทุน 7.6 พันล. เชียงใหม่-กรุงเทพฯ
AWC และ Hotel Okura ลงทุนกว่า 7.6 พันล.บาท เปิดโรงแรม 2 แห่ง ไฮไลท์ในเชียงใหม่ ‘เรียวกัง’ หรูครั้งแรกในโลก ส่วนสาขากรุงเทพ อวดรีสอร์ตสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมือง

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงาน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมจำนวน 2 แห่ง กับ Hotel Okura Co., Ltd. เครือโรงแรมระดับโลก ที่ผสมผสานวัฒนธรรมการบริการชั้นเลิศแบบญี่ปุ่นเข้ากับที่พักชั้นหนึ่ง และอาหารเลอรส

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานของทั้งสององค์กร สู่การพัฒนาโครงการสำคัญแห่งใหม่ 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่

  1. โรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ (Okura Resort Chiang Mai) ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์โอกุระแห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย นำเสนอประสบการณ์เรียวกังสุดหรูภายใต้แบรนด์โอกุระนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกของโลก
  2. โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา (The Okura Prestige Sukhumvit Bangkok Hotel and Spa) ใจกลางย่านทองหล่อ ด้วยบริการการดูแลสุขภาพองค์รวม พร้อมองค์ประกอบสไตล์ญี่ปุ่นในบรรยากาศลอยฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ใจกลางทองหล่อ หนึ่งในย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดในกรุงเทพฯ

โดยความร่วมมือเพื่อพัฒนาโรงแรมใหม่นี้มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท พร้อมสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโต (GROWTH-LED Strategy) ของบริษัท เพื่อสนับสนุนประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก และตอบโจทย์ความต้องการเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย ทั้งด้านการให้บริการระดับลักซูรี่ ด้วยประสบการณ์ในแบบญี่ปุ่นเข้ากับความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของไทย เพื่อต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลก

วัลลภา กล่าวว่าด้วยความร่วมมือยาวนานกับ Hotel Okura เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมอันโดดเด่นสู่สองเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสันที่สุดของประเทศไทย

โดยโรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ จะสร้างนิยามใหม่ให้กับทางการท่องเที่ยวลักซูรี่และยั่งยืนในประเทศ  และยังจะเชื่อมต่อกับโครงการไลฟ์สไตล์เดสทิเนชั่นของ AWC อย่าง ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ เสนอประสบการณ์ประทับใจผ่านการถ่ายทอดความงดงามของอาณาจักรล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์เคียงคู่กับความสง่างามในแบบฉบับญี่ปุ่นเพื่อมอบประสบการณ์ประทับใจอย่างไม่สิ้นสุด

สำหรับโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา ในย่านทองหล่อจะถูกพัฒนาเป็นโอเอซิสแห่งการพักผ่อนใจกลางเมือง ด้วยบริการด้านสุขภาพองค์รวมและการเข้าพักแบบระยะยาว นำเสนอประสบการณ์การดูแลสุขภาพสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ในย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ พร้อมนำเสนอประสบการณ์แบบรีสอร์ทในเมืองด้วยกลิ่นอายแบบบญี่ปุ่นและประสบการณ์เหนือระดับ

“โครงการพัฒนาโรงแรมทั้งสองแห่งใหม่นี้ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก และช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศและสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอีกด้วย” วัลลภา กล่าวพร้อมเสริมว่า

โรงแรมทั้งสองแห่ง จะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอระดับลักซูรี่ ของ AWC และสานต่อความสำเร็จของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ และเรือโอกุระ ครุซ เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการบริการและเวลเนสให้กับประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก”

ด้าน มร. โทชิฮิโระ โอกิตะ ประธานและกรรมการผู้แทน Hotel Okura Co., Ltd., กล่าวว่า ความร่วมมือคกับ AWC ผ่านการพัฒนาโรงแรมใหม่ในประเทศไทย ต่อเนื่องจากความสำเร็จของ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ พร้อมนำแบรนด์โอกุระมาสู่เชียงใหม่และภาคเหนือของประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อมอบบริการที่พักระดับโลก ที่ผสมผสานความสง่างามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับเสน่ห์ท้องถิ่น เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษและบริการยอดเยี่ยมให้แก่ทั้งแขกชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สำหรับโรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ จะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์โอกุระแห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนช้างคลานซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วยห้องพักที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันกว่า 200 ห้อง พร้อมห้องพักแบบเรียวกัง ครบครันด้วยเสื่อทาทามิ ชุดยูกาตะ และออนเซ็นส่วนตัว ให้ผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การพักผ่อนที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับมรดกทางประเพณีของภาคเหนือ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงอาหารเลิศรส

ทั้งนี้ โรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2571 โดยจะมาพร้อมกับห้องอาหารญี่ปุ่น-ล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานวัตถุดิบท้องถิ่นเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบญี่ปุ่น พร้อมเตรียมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศแบบโอมากาเสะและล้านนาไคเซกิ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  อาทิ ออนเซ็น สปา ห้องอาหารแบบ All Day Dining คาเฟ่และห้องอาหาร เลานจ์ รูฟท็อปบาร์ และสระว่ายน้ำ

สำหรับ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา จะนำเสนอประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบองค์รวมและบริการเข้าพักแบบระยะยาวในพื้นที่ทองหล่อ  หนึ่งในย่านที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยให้บริการการเข้าพักอันเป็นเอกลักษณ์ด้านไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น มาพร้อมสวนกลางแจ้ง  และฟีเจอร์บนชั้นดาดฟ้าอื่นๆ อาทิ ห้องอาหารแบบ All Day Dining ห้องอาหารพิเศษต่างๆ  และรูฟท็อปบาร์ที่มอบวิวเมืองแบบพาโนรามา

นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ที่บริเวณคาบานาระดับหรูริมสระว่ายน้ำ พร้อมสัมผัสหนึ่งในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อสร้างสมดุลที่ดี รวมไปถึงเมนูซิกเนเจอร์ในรูปแบบของ โอกุระ เพรสทีจ อีกด้วย

ทั้งนี้ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา ยังนำเสนอห้อง Onsen Suite แบบต้นตำรับ และสัมผัสเสน่ห์เหนือกาลเวลาของห้องพักสไตล์เรียวกังอันเป็นเอกลักษณ์ หรือเลือกพักในห้องแบบตะวันตกที่ความสะดวกสบาย โดยโรงแรมยังมาพร้อมโปรแกรมสุขภาพเฉพาะบุคคลที่ผสมผสานศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับเทรนด์สุขภาพสมัยใหม่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยนักโภชนาการมืออาชีพ พร้อมด้วยบริการดูแลสุขภาพด้วยวารีบำบัด (Hydrotherapy) และการเจริญสติ (Mindfulness) เพื่อคืนพลังให้กับทั้งร่างกายและจิตใจ

ทั้งนี้ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ด้วยห้องพักกว่า 200 ห้อง พร้อมให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน ด้วยการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน ลดความร้อนจากภายนอกอาคาร และการติดตั้งระบบจัดการน้ำอีกด้วย

TAGS: #AWC #HotelOkura #โรงแรมโอกุระ #ลานนาทีค