‘เอ็กโก กรุ๊ป’เตรียมงบ 3 หมื่นล้าน เดินหน้าลงทุนพลังงานสะอาด เบรคโรงไฟฟ้าถ่านหิน ควัก๒จ่ายปันผลครึ่งหลัง หุ้นละ 3.25 บาท
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) (เอ็กโก กรุ๊ป) เปิดเผยหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เอ็กโก กรุ๊ป เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า ที่ประชุมอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2565 หุ้นละ 3.25 บาท หากรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้ว คิดเป็นเงินปันผลที่จ่ายทั้งหมดหุ้นละ 6.50 บาทรวม 3,422 ล้านบาท มีกำหนดจ่ายผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2566
นอกจากนี้เตรียมงบลงทุน 30,000 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าทั้งพลังงานดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียน และต่อยอดการลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ขณะเดียวกันได้ประกาศนโยบาย No Coal ไม่ลงทุนในโรงไฟฟ้าและธุรกิจถ่านหินเพิ่มเติม เพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2593
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคต เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 ด้วยการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดและโรงไฟฟ้าแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยไม่ลงทุนในโรงไฟฟ้าหรือธุรกิจถ่านหินเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันจะบริหารโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลดปล่อยคาร์บอน ให้น้อยที่สุด ด้วยการศึกษาเพื่อนำไฮโดรเจนและแอมโมเนียมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสม รวมถึงการใช้เทคโนโลยี การดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS)
นายเทพรัตน์ กล่าวถึง โครงการ “หยุนหลิน” ในไต้หวัน ซึ่งเป็นการก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่ล่าช้าและ มีต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้น ได้ร่วมศึกษาผลกระทบ การจัดทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อพิจารณาแนวทางที่เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด และร่วมปรับแผนการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2567