EU เลื่อนบังคับใช้มาตรการคุม 7 สินค้าทำลายป่า

EU เลื่อนบังคับใช้มาตรการคุม 7 สินค้าทำลายป่า
สหภาพยุโรปขยายระยะบังคับใช้มาตรการ EUDR ออกไปอีก 1 ปี ส่งผลให้บริษัทรายใหญ่-SMEs มีเวลาเตรียมตัวก่อนทยอยเริ่มใช้จริงธ.ค. 68

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า        เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 รัฐสภายุโรปมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเพื่อบังคับใช้ มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า(Deforestation-free Products Regulation: EUDR) ออกไปอีก 12 เดือน ดังนี้ 1.สำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ จากเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 เปลี่ยนเป็น มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป และ 2. สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และรายย่อย (SMEs) จากเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เปลี่ยนเป็น มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2569 เป็นต้นไป

สำหรับมาตรการ EUDR มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงรับมือการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าทั่วโลก ทั้งที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าที่ผิดกฎหมายและจากการขยายตัวทางการเกษตร ซึ่งครอบคลุมสินค้าทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่ วัว ไม้ ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง กาแฟ โกโก้ และยางพารา รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าดังกล่าว

ทั้งนี้เดิม EU กำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน (Transitional Period) สำหรับประกอบการในการจัดทำรายงานตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สินค้าถึงพื้นที่ที่ใช้ในการเพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยวให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ EU กำหนด โดยผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะต้องแสดงรายงานดังกล่าวให้กับหน่วยงานของ EU ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และรายย่อย (SMEs) จะต้องแสดงรายงานตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม EU อยู่ระหว่างการประกาศข้อกำหนดเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม EUDR ในส่วนของการขยายระยะเวลาบังคับใช้ในรัฐกิจจานุเบกษา (Official Journal) และดำเนินการปรับปรุงคู่มือการบังคับใช้ข้อกำหนด EUDR รวมถึงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการปฏิบัติตามพันธกรณีของข้อกำหนด EUDR เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางอารดา กล่าวว่า มาตรการ EUDR เป็นมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Measures: NTMs) ที่ EU กำหนดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม (European Green Deal) เพื่อให้ EU สามารถเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาประกอบด้วย

1.เป็นสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า 2. เป็นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศผู้ผลิต และ 3. เป็นสินค้าที่ผู้ผลิตและส่งออกมีการจัดทำ Due Diligence Statement โดยการขยายระยะเวลาบังคับใช้ดังกล่าวจะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อยสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการจัดทำรายงานตรวจสอบย้อนกลับตามเงื่อนไขของ EU ได้อย่างถูกต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้า 

TAGS: #สหภาพยุโรป #EUDR #SMEs