กาแฟพันธุ์ไทย แผนปี68 ลุยต่อพร้อมปรับแบรนด์ Tagline ใหม่รอบ 12 ปี #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ขยาย 600 สาขา เป้า 5.8 พันล.แผนเจาะ ธุรกิจกาแฟ 6 หมื่นล.

สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดกาแฟในประเทศไทยขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท มาจากปัจจัยหลัก คือ

1. กาแฟยังคงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง ผู้คนมองหากาแฟที่มีรสชาติหลากหลาย ทำให้เกิดความสนใจในการทดลองบริโภคกาแฟที่แตกต่างมากขึ้น
2. ตลาดกาแฟพรีเมียมมีการพัฒนาขึ้น เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟมากขึ้น ทำให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจกาแฟในทุกมิติ

ขณะที่ แบรนด์พันธุ์ไทย ได้ทำการตลาดเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดนใจผู้บริโภคทุกกลุ่ม เจาะตลาดให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมตลาดกาแฟนอกบ้าน, Home Coffee และตลาดพรีเมียม รวมถึงสเปเชียลตี คอฟฟี (Specialty Coffee) ที่เป็นเทรนด์เติบโตสูงขึ้นในไทย

“พันธุ์ไทยยังเป็นกาแฟแบรนด์เดียวที่ได้ "คัลแลน-พี่จอง" ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นจำนวนมาก” สุขวสา กล่าวพร้อมเสริมว่า  

จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้กาแฟพันธุ์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 ที่ผ่านมา พันธุ์ไทยมีรายได้ 2,575 ล้านบาท เติบโตขึ้น 97.4% เมื่อเทียบกับปี 2566 และยังปิดปีด้วยการมีจำนวนสาขาถึง1,347 สาขาทั่วประเทศ มากขึ้นจากปี 2566 52%

สำหรับในปี 2568 นี้ พันธุ์ไทยจะยังคงเดินหน้าปั้นกาแฟไทยที่ตั้งใจให้โลกรัก ผ่านแบรนด์ Tagline ใหม่ในรอบ 12 ปี #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ที่ตอกย้ำ DNA ของแบรนด์พันธุ์ไทยตลอด 12 ปีมานี้ ในการสร้างสรรค์และเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

“กาแฟพันธุ์ไทยจะก้าวสู่ยุคใหม่ ที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าอะไรที่เป็นไปไม่ได้พันธุ์ไทยจะทำให้เป็นไปได้ และในไตรมาสแรกปี 2568 นี้ เราตั้งเป้ารายได้ 1,214 ล้านบาท และจะขยายสาขาทั่วประเทศให้ได้ 146 สาขา และจะมีสาขาให้ครบ 5,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2571" สุขวสา กล่าว

ขณะที่ Brand Tagline ใหม่ "#พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ สะท้อน Brand DNA ของพันธุ์ไทย ในการเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ทั้งการเป็น Creative Thai Taste เมนูหลากหลายที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังคงแนวคิดให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยและวัตถุดิบไทย

นอกจากนี้ ยังร่วมสร้างสรรค์อเมริกาโน ให้เป็น "ไทยริกาโน" ชื่อที่สะท้อนความเป็นไทย ด้วยเป็นกาแฟสเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) สัญชาติไทย จากเมล็ดกาแฟไทย สายพันธุ์อาราบิก้า 100% จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นกาแฟพรีเมียมในราคาเข้าถึงได้

ล่าสุด ตอกย้ำแบรนด์กาแฟที่มีความสนุกแบบไทย ๆ อยู่ใน DNA กล้านำเสนอความเป็นไทยผ่านสายตาพรีเซ็นเตอร์ต่างชาติ "คัลแลน – พี่จอง" ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวชาวเกาหลี ผู้หลงใหลการดื่มอเมริกาโนและเป็น Real User ของพันธุ์ไทยที่ทุกคนจดจำ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา Corporate Branding ที่มัดรวมความเป็นไทยไว้อย่างลงตัว คัลแลน พี่จอง ได้มาร่วมสร้างสีสัน นำเสนอวัฒนธรรมไทยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งน้องหมูเด้ง น้องฮิปโปแคระ Soft Power ของไทย, ลายเส้นจิตรกรรมในรูปแบบการ์ตูนไทยสมัยใหม่, ลิเกมาร์เวล ศิลปะไทยฟิวชัน, นาคกี้หรือบุดด้างูของ 2 อปป้า"

สุขวสา กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมแรกของปี 2568 กาแฟพันธุ์ไทย ได้สื่อสารความเป็นไทยให้ไปไกลระดับโลก ด้วยการจับมือกับคุณสุรชัย พุฒิกุลางกูร ศิลปินนักสร้างสรรค์โฆษณา Illustrator อันดับหนึ่งของโลกที่กวาดรางวัลจากทั่วโลกมาแล้วกว่า 3,000 รางวัล ถ่ายทอดเส้นทางของกาแฟไทยริกาโนผ่านงานศิลปะบนแก้วไทยริกาโน บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการคัดสรรแหล่งปลูก และกรรมวิธีที่พิถีพิถันจากความตั้งใจของเกษตรกรไทย ไปจนถึงการส่งมอบกาแฟที่ดีที่สุดถึงมือลูกค้า

โดยแก้วไทยริกาโนพิเศษนี้ คือ การถ่ายทอดความมุ่งมั่นของพันธุ์ไทยที่มุ่งหวังให้ "ไทยริกาโน" กาแฟจากเมล็ดสัญชาติไทย เป็น "กาแฟแห่งชาติ" ที่คนไทยภาคภูมิใจ และยังเป็นการสื่อสารผ่านสื่อกลางคืองานศิลปะที่เป็นเสมือนภาษาสากลสู่ชาวโลก ให้รู้จักกาแฟไทยว่ามีคุณภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก"

นอกจากนี้ยังเปิดตัวแก้วคราฟต์ไทยริกาโน ขนาดยักษ์สูงกว่า 3 เมตรให้ทุกคนได้เห็นรายละเอียดงานศิลปะแบบชัดเจน พร้อมขอบคุณด้อมใจฟู 'คัลแลน – พี่จอง' ทุกคนด้วยของขวัญจากกาแฟพันธุ์ไทยกับกิจกรรมพิเศษมาดื่มด่ำกับไทยริกาโนในแก้วลายลิมิเต็ดอิดิชันที่เปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรก เพื่อให้ทุกคนภายในงานร่วมลิ้มรสเมนูยอดนิยมในอดีตที่อยู่ในหนังโฆษณา ที่นำกลับมาให้ชิมเฉพาะในงาน – Creative Thai Taste Selected by คัลแลน พี่จอง อาทิ อเมริกาโน โซดา,สตรอว์เบอร์เร่อ, ฝอยทอง Thai Tea, มะม่วงเบาปั่น และโพดชาเขียว

“หลังจากนี้จะได้เห็นเซอร์ไพร์สที่ไม่มีใครคิดว่าเป็นไปได้และพันธุ์ไทยสามารถทำให้เป็นไปได้เกิดขึ้นอีกมากมาย” สุขวสา กล่าวทิ้งท้าย