รัฐบาลเดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ดึงลงทุน Data Center -AI เร่งปิดดีลเจรจาเอฟทีเอกับหลายประเทศ สร้างโอกาสส่งออกยกระดับการค้า หนุนไทยยืนหนึ่งในเวทีโลก
สำนักข่าว The Better จัดงาน Economic Forum ในโอกาสฉลองก้าวสู่ปีที่ 3 โดยได้รับเกียรติจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ยกระดับการค้าไทย ยืนหนึ่งในเวทีโลก” ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะมีการขยายตัวมากขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในปีที่ผ่านมามีโครงการขอส่งเสริมการลงทุนถึง 1.3 ล้านล้านบาท ดังนั้นในปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน ขณะที่การส่งออกเดือนธ.ค. 2567 ขยายตัวถึง 8.7% ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีขยายตัวได้ 5.4% แต่ที่หลายคนยังมองว่าเศรษฐกิจไม่ดีเนื่องจากยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหา
ทั้งนี้ในด้านการลงทุนถือว่ามีการเติบโตสที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนของอุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ (PCB ) หลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่ม ทำให้อนาคตไทยจะเป็นฐานการผลิตในโลกได้ เพื่อรองรับการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่รองรับการลงทุนในระยะยาว ซึ่งต้องมีธุรกิจที่สำคัญคือ PCB Data Center และ AI เนื่องจากไทยมีความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะความมั่นคงด้านไฟฟ้า มีปริมาณสำรองถึง 16,000 เมกะวัตตต์ จากที่มีกำลังผลิต 50,000 เมกะวัตต์ ใช้จริงแค่ 30,000 เมกะวัตต์ โดย29% เป็น Green Energy ซึ่งถือว่าไทยได้เปรียบ เมื่อเทียบกับเวียดนาม ไฟฟ้ายังไม่มีความเสถียร หากเกิดเหตุไฟฟ้าดับสร้างความเสียหายหลักร้อยล้านบาท ดังนั้นกลุ่ม Data Center จึงมองไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนเพราะมีความมั่นคงในเรื่องไฟฟ้า
“ขณะนี้ไทยกำลังไปได้ดี การลงทุน่ขยายตัวมาก ผมเชื่อปีนี้เศรษฐกิจโตได้มากกว่า 3% ไปแตะที่ 5%ได้ในอนาคต ขณะที่ส่งออกจะโตมากกว่า 3% เนื่องจากทิศทางการลงทุนหากปีนี้ 1 ล้านล้านบาท ปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงเช่นกัน การลงทุนมากขึ้น การส่งออกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อยากให้เข้าใจว่า สิ่งที่รู้สึกได้ ทุกคนอยากเข้ามาลงทุนในไทย กระแสเริ่มเข้ามาอยากให้ทุกคนมั่นใจ “
ด้านในเวทีการค้าโลก ล่าสุดในเวทีดาวอส รัฐบาลพยายามเร่งเจรจาเอฟทีเอกับหลายๆประเทศ ล่าสุดสามารถเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยกับ เอฟตา (European Free Trade Associations : EFTA) ซึ่งไม่ใช่เรื่อง่าย เพราะไม่ได้ทำแบบนี้มา 10 ปีแล้ว เหมือนเอาประเทศไทยกลับไปอยู่ในพื้นที่โลกอีกครั้ง หากเราสามารถเจรจาเอฟทีเอได้ก็จะช่วยสร้างโอกาสการค้าการลงทุนกับไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอกับไทย-อียู ซึ่งมีอยู่ 27 ประเทศ พยายามให้จบภายในปีนี้ หลังจากเริ่มทำเอฟทีกับภูฏาน , ยูเออี ,เกาหลี,แคนนาดาและUK ซึ่งไทยจำเป็นต้องทำเอฟทีเอกับหลายประเทศ
นอกจากนี้ในด้านอุตสาหกรรมอาหารไทยต้องสร้างจุดขายที่แตกต่าง การผลักดันให้มี GI กับสินค้าเกษตร เช่น ข้าวหอมมะลิเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ กระทรวงพาณิชย์จะใช้แผน Thailand next level สร้างสตอรี่ในตัวสินค้า เพิ่มความน่าสนใจ ตลอาดจนนโยบาย food storage เป็นอีกนโยบายที่ให้ความสำคัญ
