The Ordinary สกินแคร์สัญชาติแคนาดา แบรนด์ใหม่ในพอร์ตความงามของกลุ่มเอลก้า ประเทศไทย ที่นำเข้ามาทำตลาด ด้วยกลยุทธ์ขายความ ‘คลีน’ ทั้งผลิตและการตลาด ที่ใช้มัดใจลูกค้าเจนZ ให้โตไปด้วยกัน
กิตติยา อานันทนะสุวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์ดิ ออดินารี่ (Brand General Manager The Orfinary) ประเทศไทย ภายใต้บริษัท เอลก้า (ELCA) ประเทศไทย จำกัด ผู้ทำตลาดสินค้าความงามแบรนด์ระดับโลกของกลุ่ม เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ กล่าวว่า ดิ ออดินารี่ เป็นสินค้ากลุ่มดูแลผิว (Skincare) ที่บริษัทฯได้นำเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางเดือน ม.ค.2568 ที่ผ่านมา จากปัจจุบันแบรนด์ดังกล่าวได้ทำตลาดหลายประเทศในกลุ่มเอเชีย แล้ว อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และ ไทย
สำหรับแนวทางการทำตลาดสกินแคร์ The Ordinary ในไทยนั้น ‘กิตติยา’ บอกว่าจะนำหลักคิดของผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559 ด้วยการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์มาพัฒนาร่วมกับสินค้าในแต่ละไอเท็ม เป็นจุดแข็งทำตลาดด้วยวิสัยทัศน์ให้ ‘ทุกคน’ เข้าถึงสินค้าความงามคุณภาพในระดับราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อใช้เป็น ‘คีย์ เมสเสจ’ ในการสื่อสารที่เป็นทิศทางเดียวกับตลาดทั่วโลก
“ดิ ออดินารี่ วางตำแหน่งการทำตลาดในไทยในสินค้ากลุ่มเพรสทีจ บิวตี้ ตามทิศทางเดียวกับกลุ่มเอลก้า ฯ ที่เป็นผู้นำในตลาดนี้” กิตติยากล่าวพร้อมเสริมว่า “บริษัทฯ จะใช้ 3 ขั้นตอนการดูแลผิวประจำวันทั้งการเตรียมผิว ฟื้นบำรุง และ ปกป้อง ผ่านกลุ่มสินค้าดิออดินารี่ที่เข้ามาทำตลาดในช่วงแรก และในอีก6 เดือนหน้าจะทยอยนำสินค้ากลุ่มใหม่เข้ามาทำตลาดในไทย ด้วยยังมองเห็นโอกาสตลาดสกินแคร์ไทยในกลุ่มเวชสำอางมีอัตราเติบโตสูงราว8%ในปัจจุบัน สอดคล้องกับพฤติกรรมและเทรนด์ความงามด้านคลีนบิวตี้”
ขณะที่ราคาสินค้าที่เข้ามาทำตลาดในไทยนั้น จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 500 บาท หรือหากเทียบรายชิ้นจะมีราคาสูงขึ้นแล้ว 15% ด้วยเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยปัจจุบัน ดิ ออดินารี่ วางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกความงามทั้งแบรนด์เซโฟร่า (Sephora) และ อีฟแอนด์บอย (Eveandboy) รวมถึงช่องทางออนไลน์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shopee) ซึ่งของแท้จะมีแถบ Premium สีทองขึ้น
กิตติยา กล่าวต่อถึงแนวทางการทำตลาด ดิ ออดินารี่ ในไทยตามที่ได้กล่าวข้างต้นที่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับในประเทศต่างๆที่ได้เข้าไปทำตลาด คือ ยึดหลัก ความโปร่งใส และ ซื่อสัตย์ ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งแน่นอนว่าจะยังใช้สื่อสังคมออนไลน์ โซเชียล มีเดีย สำคัญๆ ร่วมเป็นเครื่องมือการตลาดเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจเนอเรชั่นซี (Z Generation)
“ดิ ออดินารี่ จะยังทำงานร่วมกับเคโอแอล หรือ อินฟลูเอ็นเซอร์ ที่เป็นผู้ใช้งานจริงและรู้จักดิ ออดินารี เป็นอย่างดีอยู่แล้วเป็นผู้บอกเล่าตัวสินค้าได้อย่างอิสระเพื่อสะท้อนถึงความโปร่งใส และ ซื่อสัตย์ เพื่อสื่อถึงความรียบง่าย ให้ข้อมูลส่วนผสมสินค้าชัดเจน ซึ่งจะสะท้อนถึงความจริงใจในการทำตลาดสินค้า ตามหลักการของผลิตภัณฑ์ที่ได้กล่าวไว้ ทำให้บริษัทไม่ได้ใช้งบจำนวนมากนักในการทำตลาด” กิตติยา ย้ำ
จากแนวทางการทำตลาดในปีแรกของ ดิ ออดินารี่ ในไทย บริษัทฯ วางเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์รักของผู้บริโภคชาวไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ได้การตอบรับดีเช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ที่ขึ้นเป็นอันดับ1 ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับในแอฟริกาที่แบรนด์ ดิ ออดินารี่ ครองเบอร์1ของกลุ่มเอสเต ลอเดอร์ (บริษัทแม่เอลก้า) ได้ภายใน 1 ปี เช่นกัน