ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” คาดกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.80-34.15 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ ระดับ 34.06 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันหยุดของสถาบันการเงินในไทย (แกว่งตัวในกรอบ 33.90-34.25 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงหนัก อย่างรวดเร็ว จนทะลุโซนแนวต้าน 34.20 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท ธนาคารยังคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีความเสี่ยงกลับมาเป็นแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงต่อได้ไม่ยาก ตามกลยุทธ์ Trend Following หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทจะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.20 บาทต่อดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่สามารถอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ หลังราคาทองคำพลิกกลับมารีบาวด์สูงขึ้น ทำให้ เงินบาทอาจยังไม่ได้กลับไปอ่อนค่าได้ ตราบใดที่ราคาทองคำยังคงสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ ทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินบาทได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ และเป็นปัจจัยที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยธนาคารมองว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้านโยบายกีดกันทางการค้าตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า ก็อาจเป็นปัจจัยที่กดดันบรรดาสกุลเงินเอเชียให้อ่อนค่าลงได้พอสมควร ทว่า เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่าลงหนัก หากสุดท้ายราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ ทำให้ต้องจับตาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical) อย่าง การเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำรัสเซีย รวมถึงการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ที่จะสามารถเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ ได้ ในกรณีที่ ผู้เล่นในตลาดเลิกกังวลประเด็นความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ หรือ กลับมาเชื่อมากขึ้นว่า เฟดจะชะลอการลดดอกเบี้ยและอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 2 ครั้ง ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยเฉพาะข้อมูลฝั่งตลาดแรงงานและข้อมูลที่เกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้ธนาคารยังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
ธนาคารมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.80-34.15 บาท/ดอลลาร์