หลัง 'ทานตะวัน ธีระโกเมน' เข้ารับตำแหน่งเอ็มดี (ร่วม) ต่อจาก'ฤทธิ์ ธีระโกเมน' บิดาและผู้ก่อตั้งเอ็มเค กรุ๊ป ไปเมื่อปลายปี67 ที่มาพร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการตลาดให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี68
เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา 'เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป' ได้ประกาศแต่งตั้ง 'ทานตะวัน ธีระโกเมน' และ 'ธีร์ ธีระโกเมน' เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม) 2 คน พร้อมมีผล 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจสุกี้ระดับตำนานที่มีอายุเกือบ 4 ทศวรรษในไทย ด้วยสาขามากกว่า 400 แห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ
โดยนับจากเปิดปี 2568 ที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของสองทายาทเจนฯใหม่ กลุ่มเอ็มเค ยังได้สร้างความไวรัลให้เกิดขึ้นในแวดวงสื่อโซเชียล พร้อมเขย่าตลาดสุกี้มูลค่ากว่า 23,000-25,000 หมื่นล้านบาท ให้มีสีสัน
ด้วยกลยุทธ์การตลาด แคมเปญแรกที่มาจากความเข้าใจลูกค้าและความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา พร้อมปรับแนวทางการสื่อสารรูปแบบใหม่ ด้วยการเปลี่ยนชื่อร้านเอ็มเค สุกี้ฯ ในบางสาขาเป็นชื่อ มงคล (MONGKOL)สุกี้ เพื่อกระตุ้นและสร้างการมีส่วนร่วมให้กลุ่มลูกค้าหลักครอบครัวและเจนฯใหม่ มาสร้างความคึกคักในช่วงเทศกาลตรุษจีนไปเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำแบรนด์ 'Top of mind' ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
ล่าสุด 'ทานตะวัน ธีระโกเมน' กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ท่ามกลางตลาดสุกี้ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากในปัจจุบัน กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวขึ้นมาสู้ศึกนี้แบบเต็มกำลัง โดยเอ็มเคฯ เริ่มเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ที่ทำให้แบรนด์สนุกยิ่งขึ้น และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
"ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา หลังการเปลี่ยนป้าย MK Restaurants เป็น MongKol Restaurants ในรอบ 39 ปี กับ 4 สาขา เพื่อเสิร์ฟความมงคลและสร้างเอนเกจเมนต์ การมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในสื่อโซเชียล พร้อมส่งเมนูเรียกความฮือฮาด้วยหมี่หยกยืนยาว 99 ซม. อีกแคมเปญมาสร้างยอดขายให้เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน" ทานตะวัน กล่าว
พร้อมกันนี้ แบรนด์เอ็มเค ยังต่อยอดแบรนด์สินค้าอาหารในช่องทางขายค้าปลีก โดยพัฒนาเมนู'ชุดบะหมี่หยก ลูกชิ้นรวมมิตร' ราคา 69 บาท ในช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น (7 - Eleven) ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งยังมาพร้อมคอนเทนต์ 'น้ำจิ้มสุกี้' มาสร้างกระแสไวรัลให้เกิดขึ้นในวงกว้างทุกวงการอย่างต่อเนื่อง
"ทั้งหมดนี้ สามารถปลุกกระแสของแบรนด์และได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคบนโลกโซเชียล อีกทั้งยังดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย" ทานตะวัน กล่าวพร้อมเสริมว่า
ล่าสุด เอ็มเคฯ ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่มาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งกับ 'หมู มาราธอน'มาเจาะกลุ่มลูกค้าเจนเนอเรชั่นวาย (Y) และ เจนฯ ซี (Z) ด้วยกลยุทธ์ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการ ด้วยแนวคิดกินไม่อั้นได้ถึง 90 นาที กับ 4 คอนโดหมูเมนูขายดี (หมูนุ่ม หมูนุ่มโรยงา สันคอหมูสไลซ์ และ คุโรบูตะสเปเชียลสไลซ์)
โดยสั่งชุดหมูเริ่มต้น 385 บาท จำนวน 1 ชุด ต่อ 1 โต๊ะ บวกเพิ่ม 159 บาท ต่อ 1 คน รับสิทธิ์ทาน หมูสันคอสไลซ์, คุโรบูตะสเปเชียลสไลซ์, หมูนุ่ม และหมูนุ่มโรยงา ได้แบบไม่อั้น! เริ่มตั้งแต่ 3 - 11 ก.พ. 2568 ที่ MK Restaurants ทุกสาขา
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่ 'ทัชใจ' คนรุ่นใหม่ และสร้างกระแสไปพร้อมภาพคนต่อคิวรอหน้าร้าน เพื่อมาชาเลนจ์แคมเปญฯ นี้
โดย MK Restaurants ยังฉลองความสำเร็จจากแคมเปญ 'หมูมาราธอน' ทุบสถิติใหม่เพียง 9 วัน กว่า 1 ล้านคอนโด ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งสร้างกระแสตอบรับดีเกินคาด สามารถดึงดูดทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ส่งผลให้ลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้นกว่า 20% ปิดจบแคมเปญด้วยยอดขายเพิ่มกว่า 25% และกว่า 600,000 Engagement บนโลกโซเชียล
พร้อมกันนี้ เอ็มเคฯ ยังไปต่อแคมเปญใหม่ในโอกาสสำคัญ เพื่อสร้างเอนเกจเมนต์ต่อเนื่องให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการปล่อยคอลเลคชัน 2 : MK Duck Lovers กล่องสุ่มน้องเป็ด ซึ่งคอลเลคชัน 1 Duck Series ที่เคยถูกปล่อยไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดนำกลับมาต้อนรับวาเลนไทน์ใน 4 แบบ คือ น้องเป็ดคลั่งรัก, น้องเป็ดหัวใจใหญ่, น้องเป็ดเลิฟเลิฟ และน้องเป็ดนุ่มนิ่ม (ตัวซีเครต)
สำหรับ แคมเปญฯนี้ เพื่อรองรับทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ครอบครัว และสายจุ่มตัวจริงอีกครั้ง หากหลงรักในคอลเลคชันแรกแล้ว เชื่อว่าจะต้องมาตามเก็บคอลเลคชันนี้กลับบ้านด้วย โดยสั่งเป็ดย่างเอ็มเค (ใหญ่) และซื้ออาหาร เครื่องดื่ม รวมมูลค่า 1,299 บาท ขึ้นไปต่อบิล รับฟรี กล่องสุ่มน้องเป็ด จำนวน 1 กล่อง (คละแบบ) ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2568
"คาดว่าแคมเปญช่วงวาเลนไทน์นี้จะได้รับความสนใจจากลูกค้า รวมถึงการสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเทศกาลนี้ได้อย่างแน่นอน" ทานตะวัน กล่าวพร้อมทิ้งท้ายว่า "จากนี้ไปแบรนด์ MK Restaurants และแบรนด์อื่นในเครือของ MK GROUP จะยังมีแคมเปญอื่นอื่นๆ ที่จะสนุกขึ้นและหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนแคมเปญที่ผ่านมา"