“พิชัย” นำทัพเยือนญี่ปุ่น จัดงานสัมมนาใหญ่ “Thailand - Japan Investment Forum” พบนักลงทุนสร้างโอกาสขยายฐานผลิต เซมิคอนดักเตอร์ – ยานยนต์ - เกษตรอัจฉริยะ
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19 – 21 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน จะนำคณะหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทย เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยบีโอไอ ร่วมกับธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่น จัดสัมมนาใหญ่ “Thailand-Japan Investment Forum 2025” ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยขณะนี้มีนักลงทุนและผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้วมากกว่า 300 ราย
ทั้งนี้ภายในงานสัมมนา รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการบีโอไอ จะนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากบีโอไอและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ จะมีการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากบริษัทญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในไทย อีกทั้งจะมีการร่วมออกบูธให้ข้อมูลโดยผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade Center) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมของไทย (อมตะ WHA โรจนะ เอเซีย) ธนาคารกรุงเทพ องค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนในต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สมาคมความร่วมมือทางเทคนิคในต่างประเทศของญี่ปุ่น (AOTS) สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น - ไทย (JTECS) และธนาคาร SMBC ในฐานะผู้ร่วมจัดงาน
ขณะเดียวกันคณะรัฐบาลไทยจะพบกับผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นเป็นรายบริษัท ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ เกษตรและอาหาร เพื่อหารือแผนขยายการลงทุนในประเทศไทย อีกทั้งจะพบกับ นายมูโตะ โยจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เพื่อหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ภายใต้กรอบความร่วมมือ Energy and Industry Dialogue (EID)
รวมทั้งหน่วยงานสำคัญอื่น ๆ ของญี่ปุ่น เช่น Leading-Edge Semiconductor Technology Center (LSTC) สถาบันด้านเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของญี่ปุ่น และหน่วยงานด้านเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะและเทคโนโลยีพลังงาน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของไทยด้วย
นายนายนฤตม์ กล่าว ญี่ปุ่น ถือเป็นพันธมิตรสำคัญของไทย ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสะสมมากที่สุดในประเทศไทย สำหรับการจัดโรดโชว์ครั้งนี้มีเป้าหมาย 2 ประการ ข้อแรกคือ การสร้างความมั่นใจในหมู่นักลงทุนญี่ปุ่น ทั้งที่มีฐานอยู่ในไทยแล้ว และที่กำลังตัดสินใจโยกย้ายฐานการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยยังคงสนับสนุนและพร้อมเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มั่นคงในอนาคต
ส่วนอีกประการหนึ่งคือ การนำเสนอโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ เช่น เซมิคอนดัคเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท (xEV) เกษตรอัจฉริยะ อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง พลังงานใหม่ รวมทั้งกลุ่ม SMEs และ Startup ของญี่ปุ่น ซึ่งมีศักยภาพที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2563 – 2567) ญี่ปุ่นได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวน 1,176 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์