Sharp ซุ่มศึกษาอินไซต์เครื่องใช้ไฟฟ้า 2 ปี รับแผนปี68 กลับมาเปิดตัวสินค้ามากสุดในรอบ 10 ปี ใช้ดีไซน์เรียบง่าย-ฟังก์ชั่นเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ เข้าถึงกลุ่มเจนฯใหม่
วิโรจน์ ทานัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ชาร์ป (Sharp) ในไทยและอาเซียน เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯและ ชาร์ป ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยการออกแบบ (Design) และ การใช้งาน (Functional) โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก (Small Appliance) เพื่อทำตลาดเชิงรุกและขยานฐานไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ จากปัจจุบันแบรนด์ชาร์ป อยู่ในตลาดมานานร่วม 52 ปี
สำหรับแนวทางดังกล่าว ยังเพื่อใช้เป็นจุดแข็งด้วยแบรนด์สินค้ามาตรฐานคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยการออกแบบเรียบง่ายให้สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านพร้อมกัน ด้วยราคาสมเหตุสมผล ตรงกับความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มความต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ดังกล่าว ขยายตัวมากขึ้น
“ในอดีตผู้บริโภคมองเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อใช้งาน แต่ปัจจุบันให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นและดีไซน์เรียบง่ายมากขึ้นเพื่อใช้ร่วมกับการตกแต่งที่อยู่อาศัย” วิโรจน์ กล่าวพร้อมเสริมว่า “แนวทางดังกล่าว ยังเสริมจุดเด่นของแบรนด์ญี่ปุ่นที่ผู้บริโภคชาวไทยคุ้นเคยมานานและเป็นท็อปออฟมายด์แบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กต่อไป”
อย่างไรก็ตาม จากการเข้ามาของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กประเภทต่างๆจากจีน ซึ่งเข้ามาในไทยมานานกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และใช้กลยุทธ์ด้านราคาเป็นหลักเข้ามาทำตลาด ซึ่งบริษัทฯ ประเมินว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเมื่อเปรียบกับต้นทุนการผลิต ทำให้แบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายเดิมในตลาดก่อนหน้าจะต้องเร่งปรับตัว จากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มีต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 5% จากรอบด้านทั้งค่าแรงขั้นต่ำ และอื่นๆ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทยังคงราคาสินเดิมในการทำตลาดและไม่มีแผนปรับราคาในขณะนี้
วิโรจน์ กล่าวว่าสำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชื้นเล็กในไทย ปี 2568 คาดจะยังเติบโตเล็กน้อยเช่นเดียวกับในปี 2567 ที่ผ่านมา จากปัจจัยลบต่างๆ ทั้งอำนาจการจับจ่ายซื้อสินค้า (Power Purchasing)ของผู้บริโภคลดลง จากผลกระทบปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังมีอัตราสูงทำให้ชะลอการซื้อสินค้า
จากทิศทางดังกล่าว บริษัทฯ ยังได้หันมาปรับแผนธุรกิจเน้นทำตลาดหน้ากว้าง (Horizonal) โดยในปีนี้ จะเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จากแผนในไตรมาสแรกเปิดตัวสินค้า 5 รายการใหม่ ประกอบด้วย 1.พัดลมSHARP ขนาด 18นิ้ว ดีไซน์ใหม่ 2.หม้อหุงข้าว SHARP CUBE รุ่น 1 ลิตร ดีไซน์ใหม่เข้าได้กับทุกครัว 3.หม้อทอดไร้น้ำมัน SHARP รุ่น 4.2 ลิตร, 6.8 ลิตร และ 7 ลิตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำครัวยุคใหม่ 4. เตารีดไอน้ำ SHARP 3 รุ่น พร้อมรุกตลาดเตารีดไอน้ำแบบเต็มรูปแบบ 5.เครื่องทำน้ำอุ่น SHARP รุ่น MODI (โมดี้) 3,500 วัตต์ และ 4,500 วัตต์ พร้อมปรับรูปแบบดีไซน์เครื่องทำน้ำอุ่นครั้งใหญ่ของชาร์ป อีกด้วย
“หลังเปิดตัวสินค้าในไตรมาสแรก ปีนี้บริษัทยังมีแผนทยอยเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่ตามฤดูกาลออกมาอีก” วิโรจน์ กล่าว
จากแผนดังกล่าวทั้งหมด เพื่อให้สินค้าชาร์ปเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น หลังสำรวจพบพฤติกรรมเชิงลึกมักตัดสินใจซื้อสินค้าจากจุดขายเป็นหลัก ทั้งในช่องทาง โมเดิร์นเทรด ทราดิชั่นนัลเทรด และ ออนไลน์ โดยในปีนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตธุรกิจอยู่ที่ 5% เท่ากับในปี 2567 ที่ผ่านมา มีรายได้ราว 1.6 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในไทย ปัจจุบันแบ่งออกเป็นกลุ่ม (Category) ต่างๆ อาทิ กลุ่มพัดลม มีมูลค่าตลาดรวม 7,000-8,000 ล้านบาท ‘ชาร์ป’ ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ราว 20% ส่วนกลุ่มหม้อหุงข้าวราว 4,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในตลาด ส่วนตลาดเตารีดทั่วไปคาดมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท