ซีอีโอ โคเวย์ ให้ใจ ‘ไทย’ เป็นตลาดเชิงกลยุทธ์สินค้าโมเดลซับสคริปชั่น วางเป้าหมายอนาคตได้ฐานสมาชิก 5 ล.บัญชี ตามรอยคนเกาหลียอมจ่ายซื้อพ่วงบริการสินค้าไลฟ์สไตล์ แบบรายเดือน ที่โตแรงมาก

คิ รยง ชอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โคเวย์ ประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์ หลังเข้ารับตำแหน่งซีอีโอ โคเวย์ในไทยคนล่าสุดไปเมื่อเดือน ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา พร้อมเป้าหมายใหญ่ขยายฐานสมัครสมาชิกแบบจ่ายรายเดือน (Subscription) ในตลาดผู้บริโภคชาวไทยให้มีจำนวน 1 ล้านบัญชี ให้เร็วที่สุด และจะขยายเพิ่มเป็น 5 ล้านบัญชี ในช่วงการดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่โคเวย์ของไทย

จากเป้าหมายดังกล่าว ‘ชอย’ บอกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาส ด้วย 'โคเวย์' ถือเป็นแบรนด์แรกๆในไทย ที่เข้ามาทำตลาดและให้บริการสินค้าในรูปแบบ 'ซับสคริปชั่น' และยังเป็นอันดับ 1 ในตลาดกรองน้ำภายใต้โมเดลธุรกิจนี้

ชอย บอกว่า "โคเวย์ เป็นแบรนด์สินค้าเกาหลีเกิดขึ้นในปี 1989 และเข้ามาอยู่ในตลาดไทยตั้งแต่20 ปีก่อนในรูปแบบการขายตรงสินค้า จากนั้นได้พัฒนาสู่รูปแบบซับสคริปชั่นและทำตลาดอย่างจริงจังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จจนก้าวสู่การเป็นอันดับหนึ่งในโมเดลธุรกิจนี้” พร้อมเสริมว่า “จากความคุ้นเคยในตลาดของโคเวย์ ในไทยจะยังไปต่อด้วยการทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไลฟ์สไตล์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (Wellbeing ) อย่างต่อเนื่องนับจากนี้"  

‘ไทย’ จะเหมือน ‘เกาหลี’ ก็เรื่องนี้

สำหรับการทำตลาดเครื่องกรองน้ำโคเวย์ในรูปแบบซับสคริปชั่น ที่ประสบความสำเร็จในไทยนั้น ‘ชอย’ มองว่ามาจากหลายปัจจัยประกอบกันทั้งตัวสินค้า ฟังก์ชั่น ราคา แต่ที่สำคัญคือ การนำโมเดลซับสคริปชั่น มาได้ถูกจังหวะในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในคนรุ่นใหม่ (กลุ่มอายุ 30-40ปี) นิยมซื้อสินค้าแบบการชำระรายเดือน ส่วนกลุ่มคนรุ่นใหญ่ (40 ปีขึ้นไป) จะยังซื้อสินค้าแบบชำระเงินทันทีมากกว่า

"ช่วง 4-5 ปีก่อนที่โคเวย์เข้ามาทำตลาดซับสคริปชั่น ยอมรับว่ามีหนี้เสียเกิดขึ้น แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 0.5% และเริ่มมีจำนวนลดลง ซึ่งโคเวย์จะหานวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ มาอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในไทยให้มีช่องทางชำระค่าสมาชิกที่หลากหลายนอกเหนือจากหักผ่านบัตรเครดิต" ชอย เสริมพร้อมกล่าวว่า

"พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยดังกล่าว ยังคล้ายคลึงกับตลาดในเกาหลีใต้โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นตลาดซับสคริปชั่น 100% ด้วยคนเกาหลีนิยมใช้บริการจัดหาน้ำดื่มแบบรายเดือนมากกว่า"

ชอย บอกว่า "ครอบครัวคนเกาหลีที่มีสมาชิกอยู่ร่วมกัน จะนิยมสมัครสมาขิกรายเดือนสินค้าเครื่องกรองน้ำมากกว่าการซื้อน้ำดื่มโดยตรง เพราะมองว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันซึ่งรวมถึงอากาศ ซึ่งโคเวย์ก็มีเครื่องฟอกอากาศเข้ามาทำตลาดในโมเดลซับสคริปชั่นเช่นกัน"

ปัจจุบัน โคเวย์ มีตลาดครอบคลุมกว่า 60 ประเทศทั่วโลก มีรูปแบบการทำตลาดผสมผสานทั้งโมเดลขายปลีกทั่วไป และ ซับสคริปชั่น ซึ่งอย่างหลังมีเพียงไม่กี่ประเทศที่นำมาใช้ทำตลาดและประสบความสำเร็จด้านฐานสมาชิกรายเดือน ประกอบด้วย เกาหลีใต้ มีสมาชิก 7 ล้านราย มาเลเซีย 3 ล้านราย สหรัฐอเมริกา 2-3 แสนราย และ อินโดนีเซีย ส่วนไทย ปัจจุบันมีฐานสมาชิกราว 3 แสนราย และเตรียมแผนผลักดันไทยเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์สำคัญ เพื่อขึ้นเป็นอันดับ2 ของโมเดลธุรกิจซับสคริปชั่นแบรนด์โคเวย์ นอกเหนือจาก เวียดนาม และ สิงคโปร์ ที่โคเวย์เข้าไปทำตลาดในรูปแบบค้าปลีกด้วย   

"ตลาดซับสคริปชั่นในเวียดนาม ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก จากพฤติกรรมผู้บริโภคชอบซื้อสินค้าทันทีเพื่อการครอบครองมากกว่าการจ่ายระบบรายเดือน เช่นเดียวกับสิงคโปร์" ชอย กล่าว

สินค้าเวลล์ บีอิ้ง คือ โอกาส

ขอย กล่าวว่า แนวทางธุรกิจโคเวย์ไทยนับจากนี้ จะยิ่งให้ความสำคัญในการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่นชาวไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการแท้จริง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไลฟ์สไตล์เวลล์ บีอิ้ง ซึ่งตลาดไทยจะชื่นชอบดีไซน์สินค้าที่นำไปใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้ แต่ก็ยังให้ความสำคัญด้านการใช้สอย ซึ่งแตกต่างไปจากตลาดในมาเลเซียที่นิยมสินค้าด้านฟังก์ชั่นและตอบโจทย์การใช้งาน เป็นหลัก

โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โคเวย์ จะนำสินค้าทั้งไลน์อัปและรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มสินค้าเครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ และ เก้าอี้นวดไฟฟ้า ที่จะเปิดตัวในไทยราวเดือนเมษายน ปีนี้ และแน่นอนว่า จะนำโมเดลซับสคิปชั่น มาใช้ทำตลาดในไทยด้วยเช่นเดียวกับการทำตลาดดังกล่าว ในเกาหลีที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว

"สินค้าไลฟ์สไตล์เวลล์บีอิ้ง จะมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ด้วยเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนที่ต้องการดื่มน้ำ ใช้อากาศ และการพักผ่อนนอนหลับ ภายใต้สุขภาวะ อย่างในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โคเวย์มียอดขายเครื่องฟอกอากาศเติบโตสูงถึง 30% จากในช่วงจังหวะไทยเจอมลภาวะฝุ่น PM2.5.

ชอย เสริมเกร็ดสนุกว่า "ตลาดคนไทยรุ่นใหม่ น่าจะชื่นชอบการนวดเพื่อการผ่อนคลายซึ่งการเข้ามาของเก้าอี้นวดไฟฟ้าเพื่อสุขภาพของโคเวย์ จะเข้ามาตอบโจทย์ด้านความถี่ในการใช้งานนวดแบบประจำได้ทุกวัน และมีความคงที่ของน้ำหนักในการกดนวด ที่เสียค่าใช้บริการแบบรายเดือน มาใช้เป็นจุดแข็งทำตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างไปจากการรับบริการนวดไทย ที่คนไทยชื่นชอบในปัจจุบัน ซึ่งโคเวย์ได้นำสินค้าเก้าอี้นวดเข้าไปทำตลาดในมาเลเซียแล้วคิดค่าบริการซับสคริปชั่นราวๆ1,200-1,300 บาทต่อเดือน"

ใช้อินฟลูฯท้องถิ่นเจาะใจคนไทย

พร้อมทิ้งท้ายว่า หลังจากโคเวย์ ได้เข้ามาสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้โกลบอลแคมเปญ ด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์ กลุ่มศิลปินบอยแบนด์ วงดนตรี BTS ไปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  ซึ่งแนวทางการทำตลาดจากนี้ไป โคเวย์จะหันมาให้ความสำคัญต่อการตลาดท้องถิ่นด้วยโลคัลแคมเปญ พร้อมเลือกใช้ อินฟลูเอ็นเซอร์ ผู้มีชื่อเสียงท้องถิ่นในประเทศอย่าง ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต มาร่วมนำเสนอสินค้าแบรนด์โคเวย์ เพื่อเข้าถึงคนไทยเชิงลึกมากขึ้น ไปพร้อมกับการขยายทีมโคดี้ (ตัวแทนดูแลสินค้าโคเวย์) เพื่อสร้างประสบการณ์หลังการขายที่ดีให้ลูกค้า ที่ปัจจุบันมีราว 1,000 ราย

สำหรับในปี 2025 นี้โคเวย์ ประเทศไทย วางเป้าหมายธุรกิจเติบโตราว 20% ด้วยโมเดลซับสคริปชั่นสินค้าที่จะผลักดันการเติบโตธุรกิจโคเวย์แบบก้าวกระโดด   จากปี 2024 เติบโต 15% จากยอดขายหลักสินค้าในกลุ่มเครื่องกรองน้ำ 70% และเครื่องฟอกอากาศ 30%  

ปัจจัย การทำตลาดด้วยสอดคล้องกับการเติบโตและเข้มาถูกจังหวะของวพฤติกรร

 ความสำเร็จของ

พฤติกรรม

มีโอกาส’  

ประเทศไทย

ผู้บริโภคชาวไทยในรูปแบบธุรกิจ

ผู้บริหารโคเวย์ ไทย คนล่าส

ในโอกาส ‘คิ รยง ชอย’

ประธาน

ลสินค้าเพื่

ไลฟ์สไตล์

‘ซีอีโอ’โคเวย์ บอกแผนใหญ่

ดันไทย No.1 สินค้าไลฟ์สไตล์

เจาะคนรุ่นใหม่ชอบซับสไครบ์รายเดือนมากกว่าเงินสเ

‘ไทย’ จะตามรอยเกาหลี

สินค้าไลฟ์สไตล์‘สมาชิกรายเดือน’