แผนปี68 พลัสฯ รุกบริหารอสังหาฯลักซูรี่ สร้าง DNA มืออาชีพระดับหรู เจาะตลาดเฉพาะ

แผนปี68 พลัสฯ รุกบริหารอสังหาฯลักซูรี่ สร้าง DNA มืออาชีพระดับหรู เจาะตลาดเฉพาะ
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กับแผนธุรกิจปี 68 ย้ำหนักตลาด Luxury Segment พร้อมเดินหน้าธุรกิจใหม่ เปิดศูนย์ Luxury Management Academy ครั้งแรกในไทย ตั้งเป้ารายได้เกิน 2 พันล. ปีนี้  

สุวรรณี มหณรงค์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทฯ วางแนวทางการดำเนินธุรกิจ 4 กลุ่มหลักที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ คือ 1. ธุรกิจบริหารจัดการที่พักอาศัย (Living Management) 2. ธุรกิจบริหารอาคารเชิงพาณิชย์ (Facility Management) 3. ธุรกิจซื้อ ขาย เช่า และบริหารงานขายโครงการ (Brokerage & Sale Management) และ 4.ธุรกิจ ลิฟ-ทเวนตี้โฟร์ (LIV-24) โซลูชันเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจ โดยใช้  5 กลยุทธ์สำคัญ ในปีนี้ คือ

1.เจาะลูกค้ากลุ่มระดับบน (เซกเมนต์ ลักซูรี่) มุ่งสร้างบุคลากรให้ตอบโจทย์บริการระดับพรีเมียม พร้อมเปิดศูนย์ Luxury Management Academy เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อบ่มเพาะ Luxury DNA ให้แก่บุคลากร ผ่านหลักสูตรจากสถาบันทั้งในเอเชียและยุโรป เช่น

  • หลักสูตรภัณฑรักษ์ Master the Exquisite Care ศิลปะการดูแลทรัพย์สินมูลค่าสูงโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากร
  • หลักสูตร Luxury Service จากสถาบันชั้นนำ เช่น Nai Lert Butler Academy with The British Butler Institute, Mandarin Oriental, RCB Auctions เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเน้นการสร้าง community สังคมคุณภาพให้แก่ผู้อยู่อาศัย ผ่านการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านในแต่ละโครงการ เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยโดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้งาน

2.ปักหมุดธุรกิจ LIV-24 ขึ้นอันดับ 1 สมาร์ทเทค พร้อมมุ่งภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมนำ AI และ Industrial Technology มาออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะนอกจากนี้ ยังมุ่งนำเสนอบริการเด่น ‘Visitor Management System’ (VMS) ช่วยให้การเข้า-ออกพื้นที่เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบและจดจำป้ายทะเบียนรถ พร้อมระบบลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเข้าพื้นที่ เพื่อจัดการ traffic อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการชำระค่าบริการจอดรถผ่านแอพพลิเคชัน Line ซึ่งทำขึ้นเป็นเจ้าแรกในไทย สามารถช่วยลดต้นทุนด้านระบบลงถึง 40%

3. ดำเนินการต่อเนื่องบริการพลัส คอนเซียจ (Plus Concierge) ผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย พร้อมขยายบริการสู่ตลาดภูเก็ต ตอบรับกระแสการเติบโตของภาคอสังหาฯ พร้อมต่อยอดบริการผ่านพันธมิตรที่โดดเด่นด้านไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยชั้นนำ และเตรียมนำบริการ Plus Concierge เพื่อให้บริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในภูเก็ต ด้วยบริการเพิ่มเติม ทั้ง การรับ-ส่งที่สนามบิน การดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน บริการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าน้ำ-ไฟ เก็บค่าเช่าบ้าน เป็นต้น

4. ผลักดันบริษัทลูก ‘ทัช พร็อพเพอร์ตี้ (Touch Property)’ บริการระบบวิศวกรรมอาคารครบวงจร พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยทัชฯ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าประเภทอาคารสูง ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ในการตรวจสอบและให้คำปรึกษาด้านระบบวิศวกรรมอาคาร ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าการตรวจระบบอาคารทั่วไป

5. มุ่งส่งเสริมด้านความยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม (Green Activity) อย่างต่อเนื่อง พร้อมวางเป้าหมายระยะยาวในการเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน (Green Procurement) และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยหันมาใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาด (Green Innovation) ทดแทนมากยิ่งขึ้น

“ในปีนี้จะเป็นอีกปีที่พลัสฯ พร้อมสร้างสรรค์และนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ตรงใจ พร้อมสร้าง Community และนำ Technology มาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายมีรายได้กว่า 2 พันล้านบาท” สุวรรณี กล่าว พร้อมเสริมว่า

สำหรับปี 2567ที่ผ่านมา ทิศทางธุรกิจเป็นไปในแง่บวก โดยสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้า ท่ามกลางความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปราะบางในภาพรวมส่งผลกระทบยังภาคอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ยังคงเติบโตได้ดี จากแรงขับเคลื่อนของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ขณะที่ทำเลศักยภาพในหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ขอนแก่น พัทยา ยังคงได้รับความนิยม ส่งผลเชิงบวกต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้ บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งสามารถทำรายได้รวมกว่า 1,800 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา จากการบริหารโครงการครอบคลุมทุกประเภท ทั้งโครงการแนวราบ (Low Rise) โครงการแนวสูง (High Rise) และ อาคารเชิงพาณิชย์ (Commercial Building) จำนวนรวมทั้งสิ้น 442 โครงการ มีขนาดพื้นที่รวมทั้งสิ้น 20.2 ล้าน ตร.ม.

“ผลดำเนินงานดังกล่าว สะท้อนถึงดีมานด์ด้านบริการหลังการขายและการบริหารจัดการอสังหาฯ ยังคงมีสูง รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อศักยภาพในการบริหารจัดการของพลัสฯ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” สุสวรรณี กล่าว

TAGS: #อสังหาริมทรัพย์ #พลัสพร็อพเพอร์ตี้