ทีเอ็มบีธนชาต กำไรไตรมาสแรก 4,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% หนี้เสียทรงตัวในระดับต่ำที่ 2.69% อัตราส่วนสำรองฯ 140%
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน และ 34% จากไตรมาส 1 ปี 2565 ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือหนี้เสียทรงตัวในระดับต่ำที่ 2.69% ขณะที่อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 140% สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ การบริหารค่าใช้จ่าย และการดูแลคุณภาพสินทรัพย์
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2566 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ธนาคารสามารถรักษาแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผลกำไรมาตลอด 6 ไตรมาส
ขณะที่สถานะทางการเงินก็แข็งแกร่งขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมที่เพิ่มขึ้นจากระดับก่อนรวมกิจการที่ประมาณ 18% ขึ้นมาสู่ระดับ 20% ในปัจจุบัน อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพซึ่งสะท้อนถึงกันชนป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก 120% มาอยู่ที่ 140% หรืออัตราส่วน LCR (Liquidity Coverage Ratio) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดด้านสภาพคล่องอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 180% จากเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 100% ทำให้มั่นใจได้ว่า ทีเอ็มบีธนชาตมีสถานะทางการเงินหลังการรวมกิจการที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีการดำรงสภาพคล่องและเงินกองทุนที่เพียงพอ และมีความพร้อมที่จะเติบโตตามแผนธุรกิจที่วางไว้
โดยในปี 2566 นี้ เราตั้งเป้าที่จะเติบโตสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น ด้วยการต่อยอดจากความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเช่าซื้อ ไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถแลกเงิน (ttb cash your car) สินเชื่อบ้านแลกเงิน (ttb cash your home) สินเชื่อ ttb payday loan และกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถ โดยจะเน้นฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากการรวมกิจการเป็นหลัก ซึ่งธนาคารรู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นผลดีต่อการบริหารความเสี่ยงและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการ นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมนำเสนอโซลูชันทางการเงินสำหรับกลุ่มพนักงานเงินเดือน คนมีบ้าน คนมีรถ ด้วยแนวคิด Ecosystem Play ซึ่งจะทยอยเปิดตัวให้บริการในไตรมาสถัด ๆ ไป