Nippon Paint วางงบตลาดกว่า 600 ล้านบาทยาว 3 ปีมุ่งสู่ Top of Mind แบรนด์ของคนไทย ย้ำนวัตกรรม สียางพารา ตอบอินไซด์ยั่งยืน ปลุกตลาดสี 5 หมื่นล.ให้มีชีวิตชีวา วางเป้าสิ้นปีโต 10% สู่เบอร์2
วัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์สีนิปปอนเพนต์ (Nippon Paint) เปิดเผยว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์สีในไทยครอบคลุมทุกกลุ่ม (Segment) คาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2568 คาดเติบโตคงที่ หรืออยู่ที่ประมาณ 2-5% จากในปี 2567 ตลาดสีเติบโตลดลง 6-7% จากปีก่อนหน้า
โดยภาพรวมตลาดดังกล่าว เป็นผลต่อเนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมที่กระทบบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้า ที่ขยายมายังกลุ่มตลาดสีทาอาคาร/ที่อยู่อาศัย ทั้งในกลุ่มงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีสัญญาณชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ในบางส่วนจากผู้พัฒนาโครงการฯ (Developers) ตั้งแต่ในไตรมาส2 และเห็นความชัดเจนเมื่อไตรมาสสุดท้ายในปี 2567 ที่ผ่านมา ด้วยสถาบันการเงินระมัดวังการปล่อยสินเชื่อรายย่อยมากขึ้นจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ได้ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยบางส่วน
“ในปีที่ผ่านมาโครงการแนวราบเปิดตัวใหม่ลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับช่วงโควิด และยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อตลาดซัพพลายวัสดุที่เกี่ยวข้อง” วัชระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่เกิดขึ้นบริษัทฯ มองว่าเป็นความท้าทายในการทำตลาดสีนิปปอนเพนต์ พร้อมวางแผนระยะสั้น 3 ปี (2568-2570) เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภค (Top of mind Brand) ชาวไทยนึกถึงเป็นอันดับแรก ทั้งในตลาดพาณิชย์ และตลาดค้าปลีก ด้วยกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีด้านความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้ผลผลิตทางการเกษตรยางพาราในไทย เป็นส่วนผสมสำคัญในการพัฒนาสีนิปปอนเพนต์ เป็นครั้งแรกในโลก และจะเปิดตัวสินค้านวัตกรรมดังกล่าว ในต้นเดือนมีนาคม ปีนี้
นอกจากนี้ นิปปอนเพนต์ ยังจะมุ่งให้ความสำคัญการทำตลาดสื่อสารร่วมกับผู้บริโภคปลายทาง (Enduser) ในตลาดค้าปลีกมากขึ้น โดยย้ำถึงการเลือกใช้สีคุณภาพทาอาคารทั้งภายในและภายนอกตั้งแต่วันเริ่มต้น (Day1) ซึ่งจะได้ผลตอบแทนความคุ้มค่าในระยะยาว มากกว่าการใช้สีราคาประหยัดเพื่องานซ่อมแซมปรับปรุง (Renovate)
"อีกหนึ่งความท้าทายของตลาดสีกลุ่มทาอาคารและที่อยู่อาศัย คือ การเข้าถึงงานรีโนเวท ด้วยลูกค้ามักคิดมากหากมีโครงการทาสีบ้านใหม่ ที่เริ่มตั้งแต่การจัดหาผู้รับเหมาที่พบว่าค่าแรงของช่างคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ซึ่งสูงกว่าค่าวัสดุสีซึ่งอยู่ที่ 30% ของราคารับเหมา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ที่ทำให้ตลาดสีในไทยไม่นิยมการรีเพลสเมนต์” วัชระ กล่าว
ด้าน ณรงค์ฤทธิ์ มาลัยนวล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากแนวทางดังกล่าวบริษัทฯ วางงบประมาณราว 200 ล้านบาทต่อปีต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า หรือ รวมกว่า 600 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ในทุกช่องทางทั้งสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) การทำภาพยนตร์โฆษณาโทรทัศน์ (TVC) และในสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ พร้อมเปิดตัว มาสค็อต นิปปอนเพนต์ มาร่วมสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์นิปปอนเพนต์ ให้อยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทย ไปตามแผนที่วางไว้
“นิปปอนเพนต์ เป็นแบรนด์สีจากญี่ปุ่นมีอายุกว่า 140 ปี และทำตลาดในไทยมากว่า 60 ปีและเริ่มทำเชิงรุก 7-8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจากแนวทางการสื่อสารการตลาดด้วยกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อผลักดันให้แบรนด์สีนิปปอนเพนต์ขึ้นเป็นท็อป ออฟ มายด์ แบรนด์ของคนไทย และเป็นผู้นำสีอันดับ2 ในตลาดให้ได้ในปีนี้”
ปัจจุบันสีนิปปอนเพนต์ มีมากกว่า 2,338 เฉดสี ทำตลาดหลักใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานผลิตรถยนต์ 55-60% กลุ่มอาคารสำนักงานรวมช่องทางขายตรง 25% และ กลุ่มงานซ่อมพ่นสียานยนต์ 15% และจากแนวทางดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตธุรกิจ 20% ในปี 2568 จากในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตราว 10% มีผลประกอบการอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท