บิ๊ก มูฟ ‘LINE ประเทศไทย’ รอบ10ปี วางเส้นทางเติบโตธุรกิจคู่พาร์ทเนอร์ ส่ง 3 บริการ/เทคโนโลยีใหม่ คุยแชทแล้วได้ของขวัญ-สุขภาพออนไลน์ และเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วด้วย ‘ไลน์ พรีเมียม’
นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย ผู้ให้บริการ ดืจิทัล อีโคซิสเต็ม แพลตฟอร์มไลน์ (LINE) กล่าวในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) การประชุมใหญ่ไลน์ประเทศไทย ประจำปี 2568 พร้อมเผยพันธกิจใหม่ ‘Create an amazing life platform that brings WOW+ to our users’ เพื่อขยายโอกาสการเติบโตธุรกิจร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ในการส่งมอบบริการและเทคโนโลยีให้กับผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นไลน์ในไทยกว่า 56 ล้านรายทั่วประเทศ
สำหรับในปี 2568 นี้ ไลน์ ประเทศไทย เตรียมแผนงานร่วมมือกับแบรนด์และนักพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ไปพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทย โดยเตรียมเปิด 3 บริการใหม่ในปีนี้ ประกอบด้วย LINE PREMIUM, LINE GIFT และ LINE HEALTH
“หลังจากไลน์อยู่ไทยมาร่วม 10 ปี และปัจจุบันเข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตราว 84% ยังพบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมใช้แอปฯไลน์เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันครอบคลุมทุกช่วงวัยสังคม ตั้งแต่ในโรงเรียน การทำงาน และครอบครัว ทำให้ไลน์มองเห็นโอกาสพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ มารองรับความต้องการเชิงลึกที่ให้ประสบการณ์พิเศษมากขึ้นให้กับผู้งาน นอกเหนือไลน์ปกติที่ยังให้บริการฟรี” นรสิทธิ์ กล่าว
สำหรับไลน์พรีเมียม จะเป็นระบบสมาชิกคิดค่าบริการน 169 บาทต่อเดือน โดยมีฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ที่จะได้รับ อาทิ
- การเปลี่ยนหน้าไอคอนแอปฯไลน์เป็นสีฟ้าสดใส
- การเปลี่ยนฟอนต์ (Fonts Alternation)
- การเลือกใช้รูปโปรไฟล์หลากหลาย (Multiple Profiles) สำหรับการสร้างซับโปรไฟล์ (Sub Profile) ให้เปลี่ยนรูปและชื่อโปรไฟล์ของตัวเองให้เหมาะสทกับการใช้งานในแต่ละกลุ่มบนไลน์ แอปฯ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตรูปแบบต่างๆ
- Message Backup ช่วยเก็บรักษาข้อความ, รูปภาพ, ไฟล์เอกสาร และวิดีโอได้แบบไม่มีวันหมดอายุ ให้พื้นที่จัดเก็บสูงสุด 100 GB
- ให้สิทธิประโยชน์จาก LINE SHOPPING และ LIME MAN สำหรับบริการจัดส่งอาหาร (Food Delivery) ฟรีไม่จำกัดครั้ง และให้ส่วนลดรวมกว่า 1,000 บาท ในรูปแบบ ไลน์แมน วีไอพี (LINEMAN VIP)
“ไลน์พรีเมียม จะเปิดให้บริการสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการในไตรมาสสองปีนี้ ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่สองต่อจากญี่ปุ่น ที่เปิดให้บริการดังกล่าว ไปก่อนหน้านี้” นรสิทธิ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า
สำหรับ LINE GIFT จะเป็นบริการส่งของขวัญอิเล็กทรอนิกส์ (e-Gifting) ด้วยแนวคิดใหม่โซเชียล กิฟติ้ง (Social Gifting) ให้ทุกการส่งความรู้สึกดีๆ กับเพื่อนบนไลน์ผ่านหน้าแชทได้ทันที ด้วยอี-เวาเชอร์ สินค้าบริการต่างๆ ที่ปัจจุบันมีกว่า 50 แบรนด์พันธมิตรเข้าร่วม
ทั้งนี้ ไลน์ ประเทศไทย มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากบริการไลน์กิฟต์ จะทำให้ทุกบทสนทนาผ่านแชทสามารถเปลี่ยนเป็นการส่งของขวัญได้ในทุกโอกาสเล็กๆ ได้บ่อยครั้ง นอกเหนือจากวันสำคัญส่วนตัว และยังสอดคล้องผู้บริโภคคนไทยมีพฤติกรรมสั่งซื้อและให้ของขวัญ ในช่องทางออนไลน์สัดส่วน 61% และ ช่องทางออฟไลน์ 39% แบ่งออกเป็นรูปแบบมอบให้โดยตรง 53% จัดส่งพัสดุและเดลิเวอรี่29% ส่งให้ตามที่อยู่ผู้รับ 14% และ อื่นๆ 4% ซึ่งบริการนี้พร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ในไทย จากก่อนหน้าเปิดให้บริการในไต้หวัน ไปแล้ว และได้การตอบรับดี
นอกจากนี้ ไลน์ ยังขยายการให้บริการสุขภาพ ภายใต้ LINE HEALTH เพื่อให้ผู้ใช้งานแอปฯไลน์เข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์ออนไลน์ ได้ง่ายลาสะดวก ใน3 ด้านสำคัญ คือ การลดข้อจำกัดในผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากโรงพยาบาล หรือไม่มีเวลาเดินทางมาพบแพทย์ ด้วยบริการ Health At Work จากผู้ให้บริการดูแลสุขภาพโยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมเชื่อมต่อระบบประกันสุขภาพต่างๆ นอกจากนี้ยังให้บริการปรึกษาสุขภาพจิต โดย OOCA รวมถึงให้บริการอัปเดความรู้ด้านสุขภาพทางออนไลน์ให้กับคนไทยทั่วประเทศ โดยบริการฯ นี้เปิดใช้งานในระยะทดลองแล้ว ผ่านการเพิ่มเพื่อนบัญชี (LINE Official Account) ในชื่อ @LINEHEALTH
กลยุทธ์ร่วมมือพันธมิตรระดับโลก/ท้องถิ่น
สำหรับแนวทางธุรกิจไลน์ ประเทศไทยในปีนิ้จะใช้กลยุทธ์ระดับโลก IP Business เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจไร้ขีดจำกัด กับ IPX (LINE FRIENDS) – LINE WEBTOON เป็นครั้งแรกในไทย ภายในกลุ่มบริษัท LINE อย่าง IPX (เปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม LINE FRIENDS) ที่พัฒนาสู่การเป็นครีเอทีฟสตูดิโอผู้สร้างสรรค์และพัฒนาคาแรกเตอร์ที่เติบโตเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งระดับโลก สามารถสร้างสรรค์ IP ต่างๆ ครองใจเหล่าแฟนๆ ทั่วโลก
ขณะที่ LINE WEBTOON ผู้นำแพลตฟอร์มเว็บตูนระดับโลกและในไทย เตรียมขยายโอกาสทางธุรกิจที่ต่อยอดจากคอนเทนต์เว็บตูนสู่ IP Business เช่นเดียวกัน ซึ่งสองบริการเตรียมนำไลน์อัปคาแรกเตอร์ – คอนเทนต์และโปรเจกต์ที่พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์หลากหลายรูปแบบในปี 2568
สำหรับภายในงาน LCT25 ยังได้เปิดตัว LINE MINIAPP เพื่อขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์มให้นักพัฒนาสามารถสร้าง App ของตัวเองบน LINE ได้ โดยลดข้อจำกัดในการพัฒนา Native App ที่ใช้เวลาและทรัพยากรสูง เป็นพื้นที่ให้นักพัฒนาสร้างบริการบน LINE ให้ลูกค้าผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่าย มีความครบ พร้อมแนะนำ LINE MINIAPP Playground พื้นที่ให้นักพัฒนาสามารถทดลองสร้าง MINIAPP ของตนเองได้ก่อนพัฒนาจริง
โดยในงานยังเปิดให้ 2 พาร์ทเนอร์ คือ The Omelet and Anybot Thailand นำเสนอโซลูชันช่วยภาคธุรกิจและนักพัฒนาในการสร้าง MINIAPP ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น (Low-code MINIAPP) และ OKKAMI ผู้มากประสบการณ์ในการสร้าง LINE MINIAPP ให้กับแบรนด์และองค์กรต่างๆ ในธุรกิจ Hospitality ทั่วโลก ได้มานำเสนอกรณีศึกษาและเทคนิคภายในงาน
นอกจากนี้ ยังเปิดตัว LINE DEVELOPER PARTNER โปรแกรมส่งเสริมศักยภาพนักพัฒนาไทย เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเข้าถึงการสนับสนุนรอบด้านจาก LINE เพื่อต่อยอดเป็นพาร์ทเนอร์องค์กรนักพัฒนาชั้นนำระดับประเทศ โดย LINE พร้อมเปิดรับสมัครองค์กรนักพัฒนาทั่วไทย องค์กรที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการสนับสนุนจาก LINE ทั้งในด้านทักษะความรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนด้านการตลาด และโอกาส ในการร่วมโปรเจกต์กับพาร์ทเนอร์ธุรกิจองค์กรต่าง ๆ
ทั้งนี้ LINE ยังได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นแพลตฟอร์มเปิดกว้างสำหรับคนไทย โดยในส่วนนักพัฒนาไทย LINE ได้อัปเดตแผนการเปิดให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถเข้ามาสร้างบริการ โซลูชันบน Infrastructure พื้นฐานของ LINE ในอนาคตได้ ช่วยให้การพัฒนาบริการ โซลูชันใหม่ๆ บน LINE มีความความยืดหยุ่น ช่วยลดต้นทุนด้านทรัพยากร เวลา เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้ธุรกิจและนักพัฒนาภายนอกองค์กรยิ่งขึ้น
รวมถึงแผนการพัฒนา BOT MARKETPLACE ต่อยอดจุดแข็งด้านกรุ๊ปแชทสู่ศูนย์รวมบอทที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในหลากหลายมิติ โดยนักพัฒนาสามารถสร้างและนำเสนอผลงานบอทในมาร์เก็ตเพลสแห่งนี้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือช่วยด้านการทำงานและไลฟ์สไตล์ในกรุ๊ปแชทได้โดยตรงในอนาคต