'พลังงาน’ย้ำการใช้ไฟฟ้าโตต่อเนื่องมองหาแหล่งเชื้อเพลิงถูกคุมค่าไฟ เตรียมเปิดยื่นสำรวจผลิตปิโตรฯฝั่งอันดามัน ขณะที่ เปิดยื่น 9 แปลงบนบกสัมปทานรอบที่ 25 เดือน ก.ค.นี้
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังร่วมเปิดสัมนาสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเปิดยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงบนบกครั้งที่ 25 ว่า การเปิดให้ยื่นสำรวจสัมปทานปิโตรเลียมครั้งนี้จะเป็นแนวทางหนึ่งของการหาแหล่งพลังงานไว้รองรับความต้องการใช้ในประเทศเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศในการผลิตไฟฟ้า
ทั้งนี้ในปี 2567 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) อยู่ที่ 36,792 เมกะวัตต์ ขยายตัว 6% โดยมีสาเหตุจากสภาพอากาศร้อนจัด การใช้ไฟฟ้าภาคยานยนต์ และอุตสาหกรรม Data Center ขณะที่การผลิตไฟฟ้าต้องมีการบริหารเชื้อเพลิง โดยไทยยังต้องนำเข้าเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งสัญญาระยาว 5 ล้านตัน และการนำเข้าแบบระยะสั้น (spot) 94 ลำเรือ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงจำเป็นต้องที่ต้องเตรียมพร้อมในการจัดหาแหล่งพลังงานให้เหมาะสม
ด้านนายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กรมเชื้อเพลิงฯเตรียมเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงบนบก ครั้งที่ 25 ภายใต้ระบบสัมปทาน ซึ่งทั้งหมด 9 แปลง ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 แปลง ได้แก่ หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด และสุรินทร์
ขณะที่พื้นที่ภาคกลาง 2 แปลง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี รวมเป็นขนาดพื้นที่ 33,444.64 ตารางเมตร
ทั้งนี้บริษัทที่สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศเชิญชวนและเงื่อนไขต่างๆ พร้อมทั้งเปิดห้องศึกษาข้อมูล (Data room) ให้บริษัทต่างๆเข้าศึกษาข้อมูลเบื้องต้นในการจัดทำข้อเสนอการยื่นขอสิทธิฯ 25 ซึ่งขณะนี้มีบริษัทต่างชาติ 5-6 ราย เข้าศึกษาข้อมูลแล้ว
อย่างไรก็ตามสามารถจองใช้บริการห้องศึกษาข้อมูลที่ชั้น 22 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568 หลังจากนั้นจะเปิดให้บริษัทที่สนใจยื่นซองคำขอและข้อเสนอระหว่างวันที่ 1-16 ก.ค. 2568 โดยจะใช้เวลา 2 เดือน พิจารณาข้อเสนอ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลผู้ชนะระบบสัมปทาน ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2568
“ 9 แปลงที่เปิดให้ยื่นสำรวจ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ คาดจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยคาดว่าจะเกิดการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันกรมฯอยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมเปิดสัมปทานรอบที่ 26 บริเวณทะเลน้ำลึก ฝั่งอันดามัน ช่วงปลายปี 2568 นี้ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเปิดสำรวจมาแล้วเมื่อปี 2548 แต่ยังไม่มีการขุดพบปิโตรเลียมแต่อย่างใด และเชื่อจะได้รับความสนใจ เช่นกัน”
นายนายวรากร กล่าวถึง แปลงปิโตรเลียมที่ใกล้หมดอายุสัมปทาน ได้แก่ แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ (S1) ,แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่งไพลินนั้น กรณีแหล่งไพลิน กลุ่มผู้รับสัมปทานเดิม ได้ยื่นข้อเสนอในการขอต่ออายุมาแล้ว ตามเงื่อนไขต่ออายุได้อีก 10 ปี อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดก่อนนำเสนอคณะกรรมการปิโตรเลียมและคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา อนุมัติต่อไป
ส่วนแหล่น้ำมันสิริกิติ์ (S1) และแหล่งสินภูฮ่อมจะหมดอายุสัมปทานปี 2574 โดยมีสิทธิขอต่ออายุการผลิตได้อีก 1 ครั้ง ไม่เกิน 10 ปี แต่แหล่ง S1 และสินภูฮ่อม เป็นแหล่งที่มีความสำคัญเนื่องจากเชื่อมโยงกับโรงไฟฟ้าน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา หากต้องเปิดสัมปทานใหม่กับให้สิทธิ์กับผู้สัมปทานรายเดิม โดยมองถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประเทศมากที่สุด ในกรณีที่จะให้รายเดิมบริหารต่อจะต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.ปิโตรเลียม ฉบับที่ 7