กรุงศรีฯ ไปต่อกลยุทธ์ขยายอีโคซิสเต็มพันธมิตร-ร่วมมือในเครือกรุงศรี ตั้งเป้าปี68 มียอดบัญชีลูกค้าใหม่โต 10% ใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล.บาท ยอดสินเชื่อใหม่เกินแสนล. ยอดสินเชื่อคงค้างกว่า 1.5 แสนบัญชี
อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยมุมมองธุรกิจในปี 2568 โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาล รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Easy E-Receipt จะส่งผลดี กระตุ้นให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น
“ในระยะยาวคาดว่าธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งภาวะเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวช้า อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในระดับสูง แนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียที่แม้จะทรงตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐ เป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว” อธิศ กล่าว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
- มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
- ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ
- สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน
- ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ
- พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ขณะที่ กลยุทธ์ทั้งห้าด้านนี้ เพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้า มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)
อธิศ กล่าวว่า ด้านผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัท ดังนี้
- มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%
- ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%
- ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ทั้งนี้
ขณะที่ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่
- ประกันภัย
- ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ
- ปั๊มน้ำมัน
- ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน
- ช้อปออนไลน์
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- ตัวแทนท่องเที่ยว
- โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน
- ช้อปออนไลน์
- แอปดิลิเวอรี
- สุขภาพและความงาม
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม