ไทย-สิงคโปร์ ผนึกความร่วมมือเศรษฐกิจลงนาม MOU 5 ฉบับ

ไทย-สิงคโปร์ ผนึกความร่วมมือเศรษฐกิจลงนาม MOU 5 ฉบับ
‘พิชัย’ หารือสิงคโปร์ หนุนส่งออกข้าว-ไข่ไก่ไทยเพิ่มขึ้น ชวนขยายลงทุนพลังงานสะอาด-อิเล็กทรอนิกส์ เตรียมจัดฟอร์มใหญ่ในไทยขนนักลงทุนเปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ (Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship: STEER) ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมี ดร.ตัน ซี เลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมคนที่สองของสิงคโปร์ ร่วมเป็นประธาน เพื่อกระตุ้นการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคต

นายพิชัย ระบุว่า ได้ผลักดันให้สิงคโปร์เร่งอนุมัติการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะ ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ซึ่งจะเป็นการขยายตลาดต่อจากสินค้าไข่ไก่ที่ไทยส่งออกอยู่แล้ว ฝ่ายสิงคโปร์ส่งสัญญาณเชิงบวกและเตรียมส่งคณะมาตรวจรับรองแหล่งเลี้ยงของไทยโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังได้เจรจาเพื่อเพิ่มปริมาณการนำเข้า ข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งสมาคมผู้นำเข้าข้าวของสิงคโปร์ยืนยันว่ามีความต้องการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ได้เชิญชวนให้สิงคโปร์ขยายการลงทุนและธุรกิจบริการในไทย โดยเน้น พลังงานสะอาด อิเล็กทรอนิกส์ บริการทางการเงิน และการพัฒนาทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมของไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ เศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิงคโปร์ได้ตอบรับข้อเสนอและเตรียมจัด Singapore Regional Business Forum ในประเทศไทย พร้อมนำคณะนักธุรกิจและนักลงทุนจากกว่า 30 ประเทศ มาเจรจาธุรกิจ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME ในการสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่การผลิตโลก

สำหรับการประชุม STEER ครั้งนี้ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศรวม 5 ฉบับ ได้แก่

1.ด้านอีคอมเมิร์ซ  เพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการของไทยบนแพลตฟอร์ม Shopee

2.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าและบริการข้ามพรมแดนทางออนไลน์

3.ด้านสินค้าปศุสัตว์ เพื่อแลกเปลี่ยนหลักเกณฑ์และกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าปศุสัตว์

4.ด้านธุรกิจบริการหลักทรัพย์ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุน

5.ด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเดินหน้าแผนงานความร่วมมือระหว่างปี 2568-2570

โดยความร่วมมือทั้งหมดนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูตของไทยและสิงคโปร์ที่มีมายาวนาน 60 ปี ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน ในปี 2567 การค้ารวมไทย-สิงคโปร์ มีมูลค่า 17,758.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-3.32%) เป็นการส่งออก 10,363.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.21%) และเป็นการนำเข้า 7,395.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-9.02%) โดยไทยได้ดุลการค้า 2,968.81  ล้านดอลลาร์สหรัฐ

TAGS: #สิงคโปร์ #ส่งออกข้าว #พลังงานสะอาดฃSTEER #