‘เมทเธียร์’โชว์แพลตฟอร์มอาคารอัจฉริยะเจาะตลาดสถาบันการศึกษา

‘เมทเธียร์’โชว์แพลตฟอร์มอาคารอัจฉริยะเจาะตลาดสถาบันการศึกษา
‘เมทเธียร์’ดันโมเดล ม.หอการค้าไทย ตอบโจทย์ภาคการศึกษา ประยุกต์ใช้ Ai บริหารจัดการอาคารอัจฉริยะแบบครบวงจรยกระดับความปลอดภัย 

นายขยล  ตันติชาติวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด  เปิดเผยในงาน “Ai UTCC 5.0 :Empowering Business Through Ai” จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยได้นำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จการประยุกต์ใช้ Ai ในช่วง Ai Success Stories: 15 Minutes , 1 Insight ว่า เมทเธียร์ ได้พัฒนาซอฟแวร์ METTRIQ (เมททริก) แพลตฟอร์มบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะแบบครบวงจรได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้การจัดการอาคารและสถานที่มีประสิทธิภาพ เก็บข้อมูลต่างๆ (Big Data) นำมาต่อยอดกับ AI และ IoT  ช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัย (Security) และการบริหารจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและพลังงาน (Sustainable Energy Management) ซึ่งช่วยตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงรายใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG ให้เข้าถึงแพลตฟอร์มเปิดที่ทันสมัยในการบริหารจัดการอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยั่งยืน

ทั้งนี้ในปี 2568 เมทเธียร์มีแผนที่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าในสถาบันการศึกษา อย่างจริงจัง เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่างๆทั่วโลก นำระบบ Ai มาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานตลอดจนกิจกรรมชีวิตประจำวัน ล้วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน

ขณะที่ Ai ของไทยเป็นแค่เครื่องมือของคนบางกลุ่มเท่านั้น  โดยเฉพาะภาคการศึกษา ยังขาดบุคลลากรด้านนี้อยู่มาก ที่จะมารองรับความต้องการนักเรียน นักศึกษา  ดังนั้นจึงควรทำให้ภาคการศึกษารู้จัก Ai ให้มากขึ้น  ด้วยระบบปฏิบัติการของแพลตฟอร์มอัจฉริยะ เชื่อมโยงข้อมูลใน 2 มิติ คือ ระบบการรักษาความปลอดภัย  และด้านพลังงาน 

ปัจจุบันการให้บริการและจัดการบริหารพื้นที่ของสถานศึกษา ประกอบไปด้วยบริการต่างๆ ดังนี้

1.การดูแลรักษาความปลอดภัยภายในและภายนอกอาคาร

2.แพลตฟอร์มดูแลอาคารอัจฉริยะ METTRIQ

3.การดูแลรักษาความสะอาดด้วยพนักงานทำความสะอาดควบคู่กับ METTBOT หุ่นยนต์ทำความสะอาด

4.การบริหารจัดการและเสริมสร้างประสิทธิภาพการลดใช้พลังงานในอาคาร

5. การบริหารจัดการการเข้าออกของบุคลากรและผู้มาติดต่อ

สำหรับ METTRIQ  เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมแสดงผลผ่าน Digital Twin และ 3D Visualization เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากร นำไปสู่การบริหารอาคารอย่างยั่งยืนในอนาคต นับเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะครบวงจรแรกของไทยที่รวม 12 ฟีเจอร์สำคัญไว้ในที่เดียว

1.ระบบ CCTV

2.ระบบควบคุมการเข้า-ออกอัตโนมัติ (Access Control)

3.ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management)

4.ระบบตรวจจับโลหะ (Metal Detector)

5.ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality)

6.ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ (Lighting System)

7.ระบบปรับสภาวะอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และการหมุนเวียนของอากาศภายในอาคาร (HVAC System)

8.ระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm)

9.ระบบควบคุมบันไดเลื่อนและลิฟท์ (Escalator & Lift)

10.ระบบระบายอากาศ (Air Flow System)

11.ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้า (Electricity)

12.ระบบการบริหารจัดการน้ำ (Water System)

สำหรับ Smart Building Solutions  ได้วางรากฐานการบริหารอาคารที่ทันสมัยและยั่งยืน ด้วย METTRIQ หรือ Metthier Reformative IQ ซึ่งเป็น Core Open Platform ที่รองรับการเชื่อมต่อและบูรณาการอุปกรณ์ IoT ทั้งหมดของอาคาร 

รวมถึงระบบ Facility Management เพื่อการซ่อมบำรุงและบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Corrective & Preventive Maintenance) นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผ่าน 3D Visualization ในรูปแบบของ Digital Twin ที่ทำให้การจัดการทรัพยากรในอาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถปรับตัวรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้

ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ

ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยจัดการกระบวนการลงทะเบียนและติดตามผู้มาติดต่อในอาคารและสถานที่สาธารณะอย่างเป็นระบบและปลอดภัย ระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้มาติดต่อ   

ทั้งนี้มีระบบการจดจำใบหน้า เพื่อตรวจสอบตัวตนและเปรียบเทียบข้อมูลกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ เช่น พนักงาน บุคคลสำคัญ (VIP) หรือบุคคลที่ได้รับอนุญาต เพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ระบบควบคุมการเข้าถึง

เทคโนโลยีที่ช่วยจัดการและควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ภายในอาคารหรือสถานที่ โดยกำหนดว่าบุคคลใดสามารถเข้า-ออกได้บ้าง และในช่วงเวลาใด ระบบนี้สามารถใช้ได้ทั้งในอาคารสำนักงาน โรงงาน สถานที่ราชการ หรือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ซึ่งการใช้ AI ในระบบ Access Control ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัย เช่น การใช้การจดจำใบหน้า (Facial Recognition) หรือการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งช่วยลดการใช้บัตรหรือรหัสผ่านที่อาจสูญหายหรือถูกขโมยได้ ด้วยระบบ Access Control นี้ การบริหารจัดการความปลอดภัยจะมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น 

ระบบจัดการการใช้พลังงาน

การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการควบคุม, ตรวจสอบ, และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในองค์กรหรือสถานที่ เพื่อให้เกิดการใช้งานพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียพลังงานและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน ระบบการจัดการนี้มีความสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอาคารพาณิชย์, โรงงานอุตสาหกรรม, และสถาบันที่ใช้พลังงานจำนวนมาก

“ปีนี้วางเป้าหมายในการรุกธุรกิจ ซอฟแวร์ในการบริหารอาคาร จึงเป็นที่มา โดยไตรมาสแรกจะเข้าไปให้บริการในมหาวิทยาลัย  จะได้เห็นอะไรมากขึ้น โดยเริ่มจากการจัดเก็บ Data ก่อนจากสิ่งที่ทำไปแล้วคือ มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ  การติดกล้อง Ai ทำงานแทนเจ้าหน้าที่ในการตรวจบัตรคนเข้าออกมหาวิทยาลัยบริเวณทางเข้าต่างๆของห้องเรียนหรือจุดที่สำคัญ  นอกจากนี้ยังมีระบบการตรวจจับใบหน้าผู้ที่ติดแบล็คลิสต์  อย่างกรณีในอดีตเคยมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย เช่นกระเป๋าแบรนด์เนมถูกขโมย    สามารถตรวจจับหน้าบุคคลผู้ต้องสงสัยขึ้นแบล็คลิสต์ไว้ที่มหาวิทยาลัย  เชื่อมการทำงานกับเจ้าหน้าที่ได้ทำงานร่วมกับคนขณะเดียวกันจุดจอดรถจะนำระบบ Ai ติดกล้อง CCTV มาใช้เพื่ออ่านป้ายทะเบียน ของรถยนต์ที่เข้าออก ถือเป็นการสแกนการเข้ามาในพื้นที่มหาวิทยาลัย”

นอกจากนี้ ในเรื่อง Sustainable Energy Management นั้น การบริหารจัดการการใช้พลังงานในแต่ละตึกของมหาวิทยาลัย จากนี้ไปสามารถตั้ง KPI ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์   สิ่งสำคัญต้องมีพื้นฐานข้อมูลของการใช้พลังงาน โดยเริ่มบูรณาการข้อมูลจากเครื่องปรับอากาศภายในมหาวิทยาลัย และห้องเซิฟเวอร์ ที่มีอยู่ในตึกต่างๆมาแสดงผลในห้องแล็ปมหาวิทยาลัย เพื่อดูว่าแต่ละตึกใช้พลังงานไปเท่าไหร่ และควรลดพลังงานอย่างไร 

นอกจากนี้ต้องให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม  มีการจัดทำห้องแล็ปใหญ่ให้นักศึกษาเข้าไปเรียนรู้  ต่อยอดเชิงไอเดียได้ 

สิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นแบบของการให้บริการ โดยในอนาคตเมทเธียร์ร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยของประเทศไทยก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเรื่อง Ai เป็น AI University แห่งเอเชียให้ได้


 

TAGS: #Metthier #METTRIQ #AiUTCC5.0