กลุ่มดุสิตฯ ภายใต้มือบริหาร ‘ศุภจี’ ต่อยอดมรดกงานบริการเวิลด์คลาสระดับตำนาน 70 ปี สู่อสังหาฯลักซูรี่ ‘Ajara’ แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ ครั้งแรกของไทยในหัวหิน เปิดแกลเลอรี่ เม.ย.นี้

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด ผู้พัฒนาและบริหารธุรกิจโรงแรมเครือดุสิตธานีและอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานี ได้เปิดตัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตราลักซูรี่ ภายใต้ชื่อ ‘อจารา’ (Ajara) ซึ่งถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบแบรนเด็ด (Branded Residence) ที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทยเป็นรายแรก

“ตลอดเวลา 9 ปีในฐานะผู้บริหารกลุ่มดุสิตธานีได้มองเห็นคุณค่าด้านงานบริการระดับโลกที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ของไทยภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 70 ปี และพร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนดเด็ดเรสซิเดนซ์อจารา” ศุภจี กล่าวพร้อมเสริมว่า  

“โครงการฯ ดังกล่าว เป็นการดำเนินงานภายใต้การสร้างสมดุลของพอร์ตและขยายธุรกิจใหมให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย (Segment) เพื่อรองรับความมั่นคงในระยะยาว”  

จากในอดีตกลุ่มดุสิตธานี ดำเนินงาน 2 กิจการหลัก คือ ธุรกิจบริการโรงแรม (Hospitality) ที่ปัจจุบันขยายให้บริการไปใน 20 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ขยายเพิ่มอีก 2 ธุรกิจ ด้านอาหาร (Dusit Food) และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Realestate) ซึ่งอย่างหลังได้ร่วมทุนกับพันธมิตรพัฒนาโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค คาดพร้อมเปิดตัวกลางปี2568 นี้

ศุภจี กล่าวต่อถึงแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯแนวคิด แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ แห่งแรก คือ ดุสิต อจารา หัวหิน (Dusit Ajara Huahin) มีมูลค่าโครงการฯ กว่า 2,000 ล้านบาท วางตำแหน่งเพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันของความหลากหลายทุกช่วงวัย (Multi-generation Living) ซึ่งเป็นแนวโน้ม (Trend) การอยู่อาศัยในทั่วโลก ที่สะท้อนถึงสุขภาวะ (Wellbeing) อย่างแท้จริง

สำหรับโครงการฯ  รองรับกลุ่มเป้าหมายหลัก ผู้อยู่อาศัยท้องถิ่นในประเทศไทยสัดส่วน 60% และ ต่างชาติ  40% ซึ่งพบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว จากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ให้ความนิยมเดินทางมาพักผ่อนหัวหิน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง ยอดนิยม 5 อันดับแรก (Top5) ในไทย ประกอบด้วย ภูเก็ต กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน และ เชียงใหม่   

“ดุสิต อจารา หัวหิน ยังโดดเด่นในด้านงานบริการที่เชื่อมต่อฟาซิลิตี้ร่วมกับในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ที่ตั้งอยู่ในทำเลเดียวกันบนพื้นที่ทั้งหมด 114 ไร่ ที่ดำเนินการมา 35 ปีถึงในปัจจุบัน และยังใช้ที่ดินส่วนของบริษัทฯ คาดจะเปิดเซล แกลเลอรี่ ครั้งแรกในเดือนเมษายน นี้”

โดยวางแนวทางการทำตลาดในรูปแบบเช่าระยะยาว 30 ปีต่อสัญญาอีก 30 ปี ในเบื้องต้นจะวางราคาระดับเดียวกับตลาดบนทำเลหัวหิน คือ กลุ่มนัน-แบรนด์ เริ่มต้นหลักแสนบาทต่อตารางเมตร และ แบรนเด็ดอยู่ที่ 2-2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร

“โครงการฯ จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ คาดแล้วเสร็จในอีก 2 ปีหน้า ซึ่งการดำเนินงานจะไม่ส่งผลต่อกระแสเงินสดที่มีอยู่แต่อย่างใด จากการบริหารจัดการพอร์ตอสังหาฯ ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล ดุ พาร์ค ได้แล้วกว่า 90%” ศุภจี กล่าว

โดยกลุ่มดุสิตธานี วางเป้าหมายหลักในเบื้องต้น เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์เด็ดระดับอัลตราลักซูรี่ ของคนไทย พร้อมมีแผนขยายความสำเร็จของแบรนด์ต่อไปในอนาคต

“ถ้าทำถึงตรงนี้ได้ ก็คือความสำเร็จของเรา” ศุภจี ทิ้งท้าย

ด้าน ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด กล่าวเสริมรายละเอียดโครงการฯ ‘ดุสิต อจารา หัวหิน’ ได้พัฒนาพื้นที่ด้านหน้าของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ขนาด 20 ไร่ ในรูปแบบที่พักอาศัยแนวคิด 'Low Rise, Low Density' ประกอบด้วย 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งสิ้น 96 ยูนิต

โดยยูนิตจะมีขนาดตั้งแต่

• 1 ห้องนอน ขนาด 70 - 90 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน ขนาด 120 - 180 ตารางเมตร
• 3 ห้องนอน ขนาด 250 ตารางเมตร
• เพนท์เฮ้าส์

“ในทุกอาคารได้ออกแบบให้บริเวณยูนิตชั้น 1 มีพื้นที่สวนสีเขียวส่วนตัว ขนาด 25 - 35 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถติดกับที่พักอาศัย"  ณัฐภาณุ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า "ด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมได้ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49), PIA Interior และ P Landscape (PLA) มาร่วมดีไซน์สถาปัตยกรรม พร้อมดึงความงดงามสไตล์ 'Bridging Oasis' สร้างที่อยู่อาศัยให้แนบชิดธรรมชาติ พร้อมคำนึงถึงอารยสถาปัตย์ 'Universal Design' รองรับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชัน”

นอกจากนี้ ยังยกระดับความหรูหรา ผ่านการผสาน Branded Residences สไตล์ The Only Thai Branded Residences ที่นับว่าเป็นจุดแข็งด้านการบริการแบบ Gracious Hospitality ระดับเวิลด์คลาส โดยผู้อยู่อาศัยสามารถเรียกใช้บริการระดับโรงแรม 5 ดาว ได้จาก ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส (Dusit Hospitality Services) อาทิ

• บริการ Concierge 24 ชั่วโมง
• บริการแม่บ้านทำความสะอาดที่พักอาศัย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

และกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ และสิทธิประโยชน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ Dusit Gold Platinum ที่สามารถใช้บริการโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีที่ร่วมสิทธิ์ทั่วโลก