เซ็นทรัลฯ กับแผนพัฒนารีเทลและนันรีเทลในทั่วทุกภูมิภาค ด้วยหลักคิด ‘เพราะประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่ CBD’ แผนใน5 ปีลงทุน 1.2 แสนล. มีทุกธุรกิจ 135 โครงการ บน 44 ทำเล
วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น (CPN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส (ศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน และโรงแรม) กล่าวว่าจากแผนขยายในธุรกิจไม่ใช่ค้าปลีก (นัน-รีเทล) ที่ทำมาต่อเนื่องสู่ธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยและโรงแรมบนทำเลเดียวกับแหล่งช้อปปิ้ง ปัจจัยหลักผลักดันให้ในทุกโครงการฯ ได้การตอบรับดีจากกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ที่บริษัทฯ เข้าไปพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย นอกเหนือจากรุงเทพฯ
“ด้วยหลักคิดที่มองว่า ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่ย่านธุรกิจ หรือ ซีบีดี ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญการลงทุนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ทั้งการขยายศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่ต่อยอดสู่การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งคอนโด ค้าปลีก อาคารสำนักงาน และโรงแรม” วัลยา กล่าวพร้อมเสริมว่า
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องผลการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ ต่างๆควบคู่กันทั้งการใช้ชีวิตในสถานที่ทำงานที่อยู่ใกล้แหล้งช้อปปิง และติดกับที่พักอาศัยของตัวเอง ทำให้โครงการฯมิกซ์ยูส และคอนโดแบรนด์ Escent ของบริษัทฯ ได้การตอบรับดีในทุกทำเล ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การพัฒนา Retail-Led Mixed-Use Development ที่เน้น 4 เรื่องสำคัญ คือ
- Best Location ด้านทำเล
- Best Catchment Analysis ด้านการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่
- Best Master Planning การวางแผนและออกแบบให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว,
- Best Partners พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ
วัลลยา กล่าวว่า “ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร บริษัทยังขยายการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของประเทศโดยเตรียมงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาทในแผน 5 ปี (2568-2572) พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ Mega Projects และโครงการใหม่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่จะทยอยเปิดตัวภายใน 5 ปีนี้"
5 โครงการไฮไลต์ พร้อมไทม์ไลน์เปิดตัว
- TheCentralพหลโยธิน (เปิด Q4/2569) ตั้งอยู่บนที่ดิน 49 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 460,000 ตร.ม. วางเป้าหมายให้เติบโตคู่กับเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่านพหลโยธิน
- CentralPark กรุงเทพฯ (เปิด ส.ค. 2568) ศูนย์การค้าระดับ Masterpiece ใจกลางกรุงเทพฯ บนที่ดิน 23 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 130,000 ตร.ม. พร้อมแบรนด์ชั้นนำกว่า 230 แบรนด์ รวมถึงอาคารสำนักงาน Central Park Offices ตั้งเป้าอัตราการเช่า (Occupancy Rate) 80%
- CentralNorthville นนทบุรี (เปิด Q2/2569) โครงการมิกซ์ยูสใหญ่ที่สุดในนนทบุรี พื้นที่ 59 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 210,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนที่ดินเดิมของเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
- CentralKhonkaenCampus (เปิด Q2/2569) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแห่งที่ 2 ในขอนแก่น ทำเลศักยภาพสูง ย่านการศึกษาและโรงพยาบาล พื้นที่ 30 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 67,000 ตร.ม.
- CentralKrabi (เปิด ต.ค. 2568) ศูนย์การค้าต้นแบบ Sustainable & Mindful Travel รองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ลงทุนหมื่นล.บาท ปรับฯศูนย์เดิมในทำเลสำคัญ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมใช้งบประมาณราว 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์การค้าเดิมในทำเลสำคัญ เพื่อดึงกลุ่มกำลังซื้อสูง ผ่านการเพิ่มแบรนด์เนมสินค้าดึงดูด ทั้งกลุ่ม Fashion, Food Hub, และ Family & Edutainment อาทิ
- Central Pinklao (เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า) เปิดไตรมาส3 ปี 2568 โดยจะเพิ่มกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ รองรับกำลังซื้อที่สูงขึ้นของผู้บริโภคย่านธนบุรี ที่ประชากรเติบโต
- Chaengwattana (เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ) เปิดไตรมาส4 ปี 2568 รองรับการขยายการเติบโตของกลุ่มชุมชนและครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูงในย่านนี้ ทั้งการเข้ามาของ รร.นานาชาติ และกลุ่ม Expat ซึ่งจะเพิ่มในส่วนของ Family & Edutainment
- Central Bangna (เซ็นทรัล บางนา) เปิด ไตรมาส3 ปี 2569 โดยจะปรับมาสเตอร์ แพลนนิง (Master Planning) เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปีของสาขาศูนย์ฯ เพื่อขยายพื้นที่โครงการมิกซ์ยูสบนพื้นที่ 50 ไร่ เพื่อรองรับย่านที่อยู่อาศัยระดับลักซูรี ที่มีกำลังซื้อสูง
- Central Chiangmai Airport' (เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต) โดยเตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 2569 ปรับโฉมผังใหม่บนที่ดิน 130 ไร่ และขยายโซนกาดหลวง (Indoor Local Market) เพิ่มเป็น 3 เท่ารวมเป็น 10,000 ตร.ม. และยังมีโซน Hug Craft & Northern Village เป็น Tourist Magnet ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิด Go Wholesale แห่งแรกในภาคเหนือ พร้อมแผนพัฒนาโรงแรม และคอนโดมิเนียมในอนาคต
วัลยา กล่าวว่า จากแผนดังกล่าว ภายในสิ้นปี 2568 บริษัทฯ จะมีโครงการทั้งสิ้น 135 โครงการในทุกธุรกิจ และจำนวนนี้แบ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสรวมทั้งสิ้น 30 โครงการจากทั้งหมด 44 ทำเล และประเมินว่า ภายใน 5 ปี จะมีโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มเป็น 37 โครงการ
เดอะเซ็นทรัล พหลฯ 2 หมื่นล.
ด้าน ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล President, Retail and Development บริษัทเซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากทิศทางธุรกิจตามแผน 5 ปีที่วางไว้ เพื่อบุกเบิกและสร้างเซ็นเตอร์ ออฟ ไลฟ์ (Centre of Life) ในทุกย่าน ทุกเมือง ทั่วประเทศ ได้ตามแผนที่วางไว้เพื่อเข้าถึงกลุ่มใช้บริการ
“สำหรับ เดอะเซ็นทรัล พหลโยธิน ใช้งบลงทุนเฟสแรกในส่วนของช้อปปิ้งมอลล์ ราวสองหมื่นล.บาท ซึ่งจะเป็นศูนย์การค้าระดับแฟล็กชิป เพื่อดึงดูดดีมานด์ใหม่จากแคทช์เมนต์กรุงเทพฯ ตอนบน และกำลังซื้อคุณภาพจากจังหวัดใกล้เคียง โดยจะเติบโตควบคู่กับ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นมิกซ์ยูสแห่งแรก และเป็นแลนด์มาร์กของย่านมาพร้อมกับที่เราก่อตั้งบริษัทฯ มา 45 ปี” ชนวัฒน์ กล่าว
ปี67 กำไรกว่า 1.6 หมื่นล.บาท
ด้าน นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ CFO and President, Hotel and Office บริษัทเซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจนัน-รีเทล ประสบความสำเร็จ โดยธุรกิจ Residence เติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง คอนโดมิเนียมติดศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้รับความนิยมสูง ทั้งเอสเซ็นท์ นครสวรรค์, นครปฐม, นครศรีธรรมราช รวมถึงธุรกิจโรงแรมได้เปิดตัว Hilton Garden Inn Rayong ในปีที่ผ่านมา และแบรนด์ GO! Hotel อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจสำนักงานยังมีความแข็งแกร่ง โดยปลายปีที่ผ่านมามี Occupancy Rate กว่า 90%
โดยในปี 2567 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ All-Time High ทั้งรายได้รวมที่ 51,843 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16,729 ล้านบาท พร้อมสร้างผลตอบแทนที่สูงแก่ผู้ถือหุ้น ปัจจุบัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบริการกว่า 40 สาขาครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทย มีปริมาณลูกค้าเดินทาง สูงถึง 500 ล้านวิสิท (Visits) ต่อปี และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังศูนย์ฯ มากถึง 67 ล้าน Visits ต่อปี