แสนสิริ เปิดอินไซด์ ลูกค้างานมหกรรมบ้านฯ โฟกัส ทำเล-ส่วนกลาง-กรีนสเปซ ตอบโจทย์คนยุคใหม่ตัดสินใจซื้อเลยอสังหาฯ พาไตรมาสแรกทะลุหมื่นล.บาท

อุทัย อุท้ยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เปิดเผยว่า จากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 23 มี.ค. 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในช่วง 4 วันการจัดงานฯที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย ทะลุเป้า 2,000 ล้านบาท คาดส่งผลให้มียอดขายสะสมปิดไตรมาส 1 เกิน 10,000 ล้านบาท

“ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนทั้งศักยภาพการพัฒนาสินค้าของแสนสิริที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่ให้ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์แสนสิริ ในสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง” อุทัย กล่าวพร้อมเสริมว่า

นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลความต้องการที่อยู่อาศัย ของลูกค้าที่เข้าชมบูทในงานฯ พบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่

1. ทำเลศักยภาพที่รองรับการทำงานแบบไฮบริด สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็น Home Office ได้อย่างลงตัว และต้องอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกเมื่อต้องเข้าออฟฟิศ
2. พื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย โดยเฉพาะ Co-working Space ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. พื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับโครงการที่มีแนวคิดเพื่อความยั่งยืน ช่วยลดการใช้พลังงานและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

อุทัย กล่าวว่า ในงานมหกรรมบ้านฯ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังจัดแคมเปญ ‘Sansiri Voyage’ เรือสำราญพร้อมโครงการคุณภาพ เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างและโดดเด่น ซึ่งได้การตอบรับอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะยูนิตฮอตทุกระดับราคา และในทำเลยอดนิยม รวมถึงโครงการในจังหวัดภูเก็ต กได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่นกัน

โดย โครงการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงาน 5 อันดับแรก คือ

1. เดอะ ไลน์ ไวบ์
2. เดอะ มูฟ สุขุมวิท 107
3. เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก
4. สราญสิริ ศรีนครินทร์ - แพรกษา
5. สิริ เพลส เพชรเกษม - สาย 4
    

อุทัย กล่าวว่า สำหรับในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ วางแผนรักษาอัตราการเติบโตธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยในหลากหลายเซ็กเมนต์ โดยจะเน้นการพัฒนาโครงการในทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พร้อมออกแบบแคมเปญการตลาดเชิงรุกที่ตอบรับกับทิศทางดอกเบี้ยขาลงและมาตรการสนับสนุนการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยจากภาครัฐ เ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอสังหาฯ เร็วๆ นี้

“หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนมาตรการ LTV ชั่วคราว ถือเป็นจังหวะที่ดีในการฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับการลดดอกเบี้ยที่เพิ่งเกิดขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อบ้านเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น กำลังซื้อกลับมาคึกคัก นักลงทุนและผู้ประกอบการอสังหาฯ เริ่มมองเห็นสัญญาณบวก นับเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือต้องการลงทุน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยเงื่อนไขสินเชื่อที่ผ่อนคลายและอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวมอีกด้วย” อุทัย กล่าว