‘ยังซ่าอยู่แต่ขอศูนย์แคลฯ’ หนึ่งในเทรนด์เครื่องดื่มอนาคต ใช้เจาะตลาดของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ

‘ยังซ่าอยู่แต่ขอศูนย์แคลฯ’ หนึ่งในเทรนด์เครื่องดื่มอนาคต ใช้เจาะตลาดของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ
ซันโทรี่ฯ สู่ปีที่ 7 ธุรกิจเครื่องดื่มในตลาดไทย ดึง 6 เทรนด์อนาคต ‘ไร้น้ำตาล-โมเดิร์นชูกำลัง’ มาแรงเจาะผู้บริโภคเจนฯใหม่ ยังขอซ่าแบบสุขภาพดี พบ ‘โคล่า โนชูการ์’โตถึง 3 เท่าตัว

หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 ‘ทานุจ ชาดา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม (CSD-Carbonated soft drink) และไม่อัดลม (Non-CSD) ภายใต้แบรนด์ เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่นอัพ ลิปตัน เกเตอเรด อควาฟิน่า ร็อคสตาร์ ทีพลัส และบอส คอฟฟี่ กล่าววิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การเป็น ‘บริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย’

ต่อการจะไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ‘ทานุจ’ ย้ำว่าจะต้องให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงความต้องการเชิงลึกจริงๆของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค พันธมิตรธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงพนักงานบริษัท มาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง

ด้วยหลักคิดและเป้าหมายดังกล่าว จะถูกเรียกว่า ‘The Most Beloved Company in Thailand with True Gemba Centricity’

ทานุจ กล่าว “จากโจทย์ที่วางไว้ บริษัทฯ มั่นใจว่ากำลังเดินไปถูกทาง ด้วยคอนเฟิร์มจากผลดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ มีอัตราการเติบโตถึง 8.2% หรือเติบโตมากกว่า 2 เท่าของภาพรวมตลาดเครื่องดื่มทั้งสองกลุ่มในไทย”  

ขณะที่กลุ่ม CSD ของบริษัทฯ เติบโต 2.7% โดยเฉพาะในกลุ่มโคล่า ไร้น้ำตาล (Cola Zero Sugar) เติบโตสูงถึง 16.1% ส่วนพอร์ตสินค้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (ปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 6 กรัม) ยังขยายการเติบโตถึง 5 เท่าตัวอีกด้วย

จากอัตราการเติบโตและขยายตัวของกลุ่มสินค้าดังกล่าว เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อพาสินค้าแบรนด์ต่างๆขององค์กรให้ไปสู่เป้าหมาย ด้วย กลยุทธ์ ‘Must Win’ ประกอบด้วย

  1. เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม (Strengthen Core) ส่งสินค้าใหม่สู่ตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล
  2. ขยายกลุ่มนวัตกรรมเครื่องดื่ม (Portfolio Transformation) นำเสนอสินค้าให้ความสำคัญสุขภาพ และความอร่อย ด้วยรสชาติใหม่ ในพอร์ต CSD และเครื่องดื่มให้พลังงาน
  3. สร้างความสำเร็จร่วมกับคู่ค้า (Win With Customer) ขยายฐานคู่ค่าทั่วประเทศ พร้อมเสนอสินค้าที่เหมาะสมในแต่ละช่องทางขาย และนำเทคโนโลยีเอไอ (AI) เสริมศักยภาพการทำตลาด เพื่อสร้างการเติบโต
  4. ขยายผลการจัดการบรรจขุภัณฑ์อย่างยั่งยืน มุ่งส่งเสริมการคัดแยกเก็บขวด PET ใช้แล้วอย่างจริงจัง

โดย ซันโทรี่ เป็ปซี่โคฯ ยังเป็นรายแรกในไทยที่เริ่มใช้ขวด rPET 100% และจะขยายการใช้ขวด rPet กับเป๊ปซี่และชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัสครอบคลุมกว่า 18 SKUs ส่งผลให้บริษัทฯ ลดการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin PET) ได้มากกว่า 8,300 ตัน (มี.ค. 2561-ธ.ค.2567)

ทานุจ กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อเพิ่มกำลังผลิตสินค้าในสองสายการผลิตใหม่ ในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติการ พร้อมให้ความสำคัญด้านการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าในประเทศไทย ควบคู่การใช้โมเดลธุรกิจแบบกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย 35 ศูนย์ ที่เข้าถึงร้านค้าปลีก-ส่งกว่า 275,000 แห่งทั่วประเทศ

 

 

6 เทรนด์บริโภคอุตฯเครื่องดื่มโลก

 

ด้าน ‘อนวัช สังขะทรัพย์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตธุรกิจของบริษัทฯ ช่วงที่ผ่านมา ยังเป็นผลมาจากการศึกษาตลาดและทำความเข้าใจเชิงลึกผู้บริโภคอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการติดตามกระแส (Trend) ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อนำไปใช้ร่วมกับการพัฒนาสินค้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองผู้บริโภคได้ตรงความต้องการ โดยมี 6 เทรนด์การตลาดที่เกิดขึ้นและมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคดังนี้

  1. Shifting Lifestyle การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีความหลากหลายแต่ชัดเจนเฉพาะบุคลล ให้ความสำคัญการดูแลตัวเองมากขึ้น มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บริหารจัดการเวลา และเติมพลังให้กับตัวเอง ทั้งในกลุ่มยังต้องการทำกิจกรรมและใช้เวลาส่วนตัว
  2. Joyful Moment ผู้บริโภคมองหาช่วงเวลาให้ความสุขกับตัวเองผ่านกิจกรรมที่ชอบ อาทิ เดินทางต่างประเทศ, กิจกรรมสังสรรค์ปาร์ตี้ ฯลฯ
  3. Health Conscious ให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย และการบริโภคอาหาร/เครื่องดื่ม
  4. Sustainability มุ่งความยั่งยืนที่ดีต่อตัวเองและโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซี (Z Generation)
  5. Value For Money ผู้บริโภคจะให้ความจริงจังและมองหาสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา มากขึ้น
  6. AI การนำเทคโนโลยีเอไอมามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันและการทำงาน     

 

ขณะที่ ตลาดเครื่องดื่มในปี 2568 ยังมี 5 เทรนด์ที่น่าสนใจดังนี้

 

  1. เครื่องดื่มโคล่า ยังเป็นอันดับ1 โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ครองสัดส่วน 72% ในตลาดน้ำอัดลมของพอร์ต CSD และสัดส่วน 38% ในตลาดเครื่องดื่ม (LRB)
  2. กลุ่มโคล่าไม่มีน้ำตาล (NS Cola) มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 3 เท่าตัวในตลาด LRB (ช่วงระหว่างปี 2562-2567)
  3. กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กีฬา (Healthy Sport) เติบโต 2.4% ในปี 2567
  4. กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม และกาแฟ มีอัตราการเติบโตสูงสุด 11% ในปี 2567
  5. กลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงานสมัยใหม่ (Modern Energy Drink) ขยายการเติบโต 5 เท่าในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงานแบบดั้งเดิม (Traditional Energy Drink)  

ทั้งนี้ บริษัทฯ ติดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นและนำมาปรับใช้การทำตลาดสินค้าเครื่องดื่มแบรนด์ต่างๆในพอร์ตทุกกลุ่ม อย่างเป๊ปซี่ ที่ครองใจแบรนด์เครื่องดื่มโคล่าในกลุ่มเจนฯซี พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ เป๊ปซี่ อูเมะ (Pepsi Ume) พร้อมผลักดันการเติบโตในกลุ่มเครื่องดื่มมีรสชาติ และ ซีเอสดี พลัส สำหรับแบรนด์ มิรินด้า ที่เตรียมปรับโฉมใหม่ และ เซเว่น อัพ รสชาติใหม่

นอกจากนี้ ยังผลักดันการเข้าถึงสินค้ากลุ่มให้พลังงานทั้ง 2 แบรนด์ สติงค์ (Sting) วางตำแหน่งให้มีเอกักษณ์เฉพาะเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ด้วยจุดเด่น ด้านรสชาติพร้อมเติมความสดชื่นให้กำลัง และแบรนด์ เกเตอเรด (Gatorade) สูตรไร้น้ำตาล โดยจะทำสินค้าใหม่ รสองุ่นไม่มีน้ำตาล (Gatorade NS Grape) เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมเร่งทำตลาดเชิงรุกสินค้าชาพร้อมดื่ม ลิปตัน, ทีพลัส ย้ำตำแหน่งสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น และ กาแฟพร้อมดื่ม BOSS ในรสชาติใหม่ BOSS Yuzu Black

“ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ เป็นผู้เล่นที่มีพอร์ตสินค้าอยู่ในทุกกลุ่ม ที่เป็นจุดแข็งนำไปสู่แบรนด์สินค้าที่ผู้บริดภครักอย่างยั่งยืน จากปัจจุบันเป๊ปซี่ มีสัดส่วนยอดขายราว 75% ในกลุ่มสินค้าของบริษัทฯ ซึ่งคนไทย ยังชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลมโคล่าซึ่งยังเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญหลัก ขณะที่กลุ่มไม่มีมีน้ำตาลก็มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทได้นำมาพัฒนาสินค้ารายการอื่นๆ ในพอร์ตทั้งหมดเช่นกัน” อนวัช กล่าว   

ปัจจุบัน แบรนด์เป๊ปซี่ ครองส่วนแบ่งตลาด CSD กลุ่มโคล่า สัดส่วน 39.1% วางเป้าหมายสัดส่วนเพิ่มเป็น 40% ในปีนี้ ตามอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 0.71% ต่อปี และเติบโต 2 เท่าเมื่อเทียบกับตลาดรวม ขณะที่กลุ่มสินค้าไม่มีน้ำตาล มีสัดส่วนราว 40% และวางเป้าหมายเติบโต 42%   

 

Top 50 องค์กรคนรุ่นใหม่อยากร่วมงาน

 

ด้าน 'ยศยุต สหวัชรินทร์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัดนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ตามแนวคิด People-First ในการพัฒนาบุคลากรให้เติบโตไปพร้อมบริษัทอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่วางไว้ จากในช่วงปี 2023-2024 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้รับรางวัล 1ใน 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด ต่อเนื่อง2 ปีซ้อน

 

TAGS: #ซันโทรี่ #เป๊ปซี่โคเบเวอเรจ #เป๊ปซี่ #น้ำอัดลม