กลุ่ม LHMH ขยายพอร์ตโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ทำเซ็กเมนต์ เพรสทีจ คอลเล็กชั่น แบรนด์ไทยแห่งแรกโครงการฯลุมพินี แผนใน3 ปีมีอีก 3 แห่งในกรุงเทพฯ-พัทยา
สุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ (LHMH) เปิดเผยว่าบริษัทฯ วางแนวคิดพัฒนาธุรกิจโรงแรมให้ครอบคลุมทุกความต้องการผู้ใช้บริการ โดยขยายคอลเล็กชั่น เพรสทีจ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เป็นแบรนด์แรก ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 4,800 ล้านบาท วางตำแหน่งโรงแรมระดับหรูหรามาตรฐานเวิลด์คลาส บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
โครงการฯ ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทหรู 512 ห้อง วางอัตราห้องพักเฉลี่ย 7,200 บาทต่อคืน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมสร้างประสบการณ์ด้านต่างๆ ให้ผู้เข้าพัก ทั้งรับประทานอาหารระดับไฮเอนด์ ในห้องอาหารนานาชาติ ห้องอาหารรูฟทอป ห้องอาหารจีน และคาเฟ่ รวมถึงการผ่อนคลายและดูแลสุขภาพในระดับเวิลด์คลาส และห้องประชุมจัดเลี้ยงและสัมมนาขนาดใหญ่สุดล้ำสมัย
“แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี รองรับกลุ่มเป้าหมายนักเดินทาง นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระดับพรีเมียม และห้องประชุมจัดเลี้ยง สัมมนา บริการครบวงจร แบ่งสัดส่วนลูกค้า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 70% และลูกค้าคนไทย 30%
ด้าน กิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัทแอล เอช เอ็ม เอช โฮเทล จำกัด (LHMH) กล่าวว่า โครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ยังมีจุดเด่นเป็นโครงการ Mixed-Use ประกอบด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว และพื้นที่เชิงพาณิชย์ และ อาคารสำนักงานระดับเอบวก คิดอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาท/ตร.ม.มีอัตราการจองพื้นที่แล้ว 50% ในปัจจุบัน
โดยยังเตรียมนำแนวคิด เพรสทีจ คอลเล็กชั่น เปิดให้บริการในโครงการฯ แห่งใหม่ในอนาคต สอดคล้องกับแผนงานใน 3 ปีหน้า หลังจากกลุ่ม LHMH ใช้งบลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ขยายห้องพักเพิ่มกว่า 1,300 ห้องในอีก 3 โครงการใหม่บนทำเลศักยภาพทั้งการพักผ่อนและท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และ พัทยา ประกอบด้วย
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพ Grande Centre Point Prestige Bangkok เปิดปลายปี 2568 มูลค่าลงทุน 4,500 ล้านบาท
โรงแรมกลุ่ม Prestige collection แห่งที่สองของแบรนด์ มีจำนวน 509 ห้อง บนทำเลราชดำริ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเพนนินซูล่าพลาซ่าเดิม
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ โวยาจ พัทยา Grande Centre Point Voyage Pattaya เปิดปลายปี 2569 มูลค่าลงทุน 4,800 ล้านบาท
โดยโครงการฯ ต่อยอดความสำเร็จจากโรงแรมที่เปิดก่อนหน้าทั้งสองแห่งที่พัทยา สร้างบนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ภายใต้แนวคิด ‘Time Traveler’ เดินทางผ่านมิติของเวลาโลกตะวันตกสู่จุดศูนย์รวมยุโรป มีห้องพักขนาดใหญ่ทั้ง 494 ห้อง มองวิวได้ทุกห้อง พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่มาสร้างความบันเทิงแก่ผู้เข้าพัก ห้องประชุมที่รองรับลูกค้าได้ทุกฟังก์ชัน และร้านอาหารในโรงแรมหลากหลายรูปแบบ
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่าทาวน์ กรุงเทพ Grande Centre Point Chinatown Bangkok เปิดกลางปี 2571 มูลค่าลงทุน 3,600 ล้านบาท อยู่บนทำเลย่านเยาวราช มีห้องพัก 351 ห้อง พร้อมร้านค้าระดับพรีเมียม 20 แบรนด์ ออกแบบดีไซน์ในรูปแบบจีนร่วมสมัย วางให้เป็น Landmark แห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวย่านเยาวราช
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินงานโครงการแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เป็นปีที่ 17 และมีจำนวน 7 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และ พัทยา เป็นหลักด้วยเป็นทำเลจังหวัดที่มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวระดับโลก
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านผลประกอบการโดยรวมเติบโตเกินคาด ด้วยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 85% โดยเฉพาะสาขาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา
- แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21
สำหรับใน 2568 นี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้กลุ่มโรงแรมจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกลุ่มพรีเมียม ที่ตลาดยังขยายตัวสอดรับกับการเปิดตัว โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ล่าสุด