พาณิชย์ เดินหน้าเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 5 เร่งปิดดีลภายในสิ้นปีนี้

พาณิชย์ เดินหน้าเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 5 เร่งปิดดีลภายในสิ้นปีนี้
พาณิชย์ เดินหน้าเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 5 วันที่ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. นี้ ที่  กรุงบรัสเซลส์ เร่งปิดดีลภายในสิ้นปีนี้

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วม การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) รอบที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มี.ค. – 4 เม.ย.2568 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะผลักดันข้อตกลงทางการค้าให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศในตลาดยุโรป และเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคเอกชนของไทย

สำหรับการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรปในรอบนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเริ่มหารือเชิงลึกเกี่ยวกับการเปิดตลาดระหว่างกัน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของกระบวนการเจรจา โดยนายพิชัยได้ให้กำลังใจทีมเจรจา พร้อมกำชับให้ นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ภายในช่วงคริสต์มาสปีนี้ ตามเป้าหมายที่ได้ตกลงไว้กับ นายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า

นายพิชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้หารือผ่านระบบประชุมทางไกลกับนายมารอส เซฟโควิช ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และความโปร่งใส เพื่อหารือแนวทางผลักดันการเจรจา FTA ไทย-EU ให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของการเร่งสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า FTA ไทย-EU จะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดยุโรป ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความท้าทาย โดยรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเจรจา FTA ฉบับต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะ FTA ไทย-อียู ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทาง อยากเห็นการเจรจาจบในสิ้นปีนี้ท  เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับภาคธุรกิจของไทย

ทั้งนี้ FTA ไทย-EU ถือเป็นข้อตกลงที่มีมาตรฐานสูง ครอบคลุมประเด็นใหม่ๆ เช่น การแข่งขันและการอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ อย่างไรก็ตาม นายพิชัยมั่นใจว่าทีมเจรจาของไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ จะสามารถผลักดันให้การเจรจาบรรลุผลได้ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐไทยภายใต้รัฐบาลแพทองธารได้แสดงถึงประสิทธิภาพในการเจรจา FTA โดยล่าสุดสามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ไทย-ภูฏาน ได้แล้วเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 และทั้งสองฝ่ายจะลงนามความตกลงฯ ในวันที่ 3 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีของสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน 

ปัจจุบัน สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยในปี 2567 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและ EU อยู่ที่ 43,532.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.26 จากปี 2566 โดยไทยส่งออกไปยัง EU มูลค่า 24,205.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.23 ขณะที่การนำเข้าจาก EU มีมูลค่า 19,327.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง ร้อยละ 2.16 ส่งผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้า 4,877.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

TAGS: #พาณิชย์ #FTA #พิชัยนริพทะพันธุ์