กบน. ไฟเขียวลดอัตราเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ 40 สต. เบรคราคาขยับตามตลาดโลก บรรเทาผลกระทบประชาชนช่วงเศรษฐกิจยังไ่ม่ฟื้นตัว ส่งผลให้รายได้หายไปวันละ 40.59 ล้านบาท
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง( กบน.) วันที่ 24 เมษายน 2568 ได้ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างรอบด้าน ตลอดจนสถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่จะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้มีมติเห็นชอบลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แก๊สโซฮอล 95 แก๊สโซฮอล E20 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา พรีเมียม ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ปรับขึ้นราคา
การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน ลดลงประมาณวันละ 40.49 ล้านบาทต่อวัน จากประมาณ 366.57 ล้านบาทต่อวัน เหลือประมาณวันละ 326.08 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 20 เมษายน 2568 ติดลบอยุ่ที่ 52,513 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบอยู่ที่ 7,020 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 45,493 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ เป็นมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันภายในประเทศ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ยืนยันว่า กบน.ยังคงยึดมั่นในการดำเนินงานตามกรอบของพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 โดยมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันภายในประเทศให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม ภายใต้หลักการ “เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้” เป็นสำคัญ
สำหรับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯหลังมีการปรับอัตราแล้ว คือ แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 2.30 บาทต่อลิตร ดีเซล อยู่ที่ 2.90 บาท และ