ผู้ค้าน้ำมันลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน-โซฮอล์ลง 60 สต. หลังสุดสัปดาห์ราคาตลาดโลกลง 5 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ดีเซลรอบอร์ดกบน.เคาะมีโอกาสลดราคาได้อีก
รายงานข่าวจากวงการน้ำมันแจ้งว่า PTT Station และบางจาก ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.60 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 9 พ.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ เบนซินอยู่ที่ 42.84 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 35.05 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 32.74 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.78 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 85 อยู่ที่ 33.19 บาทต่อลิตร , พรีเมี่ยม แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 42.54 บาทต่อลิตร
ส่วนดีเซล-B7 อยู่ที่ 32.44 บาทต่อลิตร ดีเซล-B10 อยู่ที่ 32.44 บาทต่อลิตร HSD-B20อ อยู่ที่ 32.44 บาทต่อลิตร พรีเมี่ยมดีเซล B7 อยู่ที่ 41.56 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 พ.ค.นี้จะมีการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) โดยมีความเป็นไปได้จะมีการพิจารณาปรับราคาดีเซล
ด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยสัปดาห์สิ้นสุด 5 พ.ค. ปรับลดลง 5.0 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 74.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและเปลี่ยนไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย จากความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอาจเข้าสู่สภาวะถดถอย ทั้งในภาคงบประมาณ การเงิน และการธนาคาร
ขณะที่นักวิเคราะห์ Reuters คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Federal Reserve: Fed) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และนักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ก.ย. 66 ทั้งนี้วันที่ 3 พ.ค. 66 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 5.0-5.25% และจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 13-14 มิ.ย. 66
ทั้งนี้คาดว่าราคา ICE Brent ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 70-80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Joe Biden มีแผนหารือร่วมกับแกนนำรัฐสภา 4 ท่าน ในวันที่ 9 พ.ค. 66 ทั้งฝั่งวุฒิสภา ได้แก่ นาย Chuck Schumer (Democratic Senator - Majority Leader), นาย Mitch McConnell (Senate Republican leader) และฝั่งสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ นาย Kevin McCarthy (Speaker of the House - Republican), และนาย Hakeem Jeffries (House Minority Leader) ในประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณ และขยายเพดานหนี้