KEY PERSONs ‘โอกิลวี่’ มุ่งสู่ ‘ครีเอทีฟ แพลตฟอร์ม’ รับมือเจนฯใหม่ ‘อิมแพค’ ตลาดมหาศาล

KEY PERSONs ‘โอกิลวี่’  มุ่งสู่ ‘ครีเอทีฟ แพลตฟอร์ม’  รับมือเจนฯใหม่ ‘อิมแพค’ ตลาดมหาศาล
โอกิลวี่ ประเทศไทย กับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโฟกัสการเติบโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ ด้วยโครงสร้างใหม่ใน 5 กลุ่มธุรกิจ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค GenY-Z ที่สร้างอิมแพคมากในตลาด

ล่าสุด โอกิลวี่ ประเทศไทย ได้ 3 ผู้บริหารสำคัญ ที่จะเข้ามาร่วมเปลี่ยนผ่านการทำงานเชิงสร้างสรรค์ครั้งใหญ่ขององค์กร คือ จิรวรา วีรยวรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กำพล ลักษณะจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ้ายสร้างสรคค์ และ ชาตรี โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์

เปิดเกมแข่ง ผ่าน 2 บียูใหม่

‘จิรวรา วีรยวรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอกิลวี่ ประเทศไทย เธอ เป็นลูกหม้อโอกิลวี่ ด้วยร่วมงานมานานถึง 28 ปี โดยก่อนหน้า ‘จิรวรา’ นั่งเก้าอี้ทั้งกรรมการผู้จัดการโอกิลวี่ และกรรมการผู้จัดการของ โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ 

ด้วยประสบการณ์ของเธอ ทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ทั้งในตัวองค์กร และ อุตสาหกรรมโฆษณาที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Technology Disruption ที่เข้ามาจู่โจมในทุกอุตสาหกรรมธุรกิจและตลาด ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ โอกิลวี่ ปรับใหม่โครงสร้างองค์กรใน 5 กลุ่มธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย

  1. โฆษณา (Advertising)
  2. ประชาสัมพันธ์ (Public Relations)
  3. การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Experience)
  4. ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Consulting)
  5. เฮลธ์ (Health)

จิรวรา เสริมว่า “ในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้าโครงสร้างธุรกิจของโอกิลวี่ ไทย จะประกอบด้วยหน่วยธุรกิจโฆษณา โอกิลวี่ พีอาร์ บริการให้คำปรึกษาธุรกิจ ฯลฯ และรวมมาเป็นโอกิลวี่วัน ซึ่งการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ครั้งนี้ที่มีเฮลธ์ เข้ามาเสริมด้วยมองเห็นโอกาสการเติบโตสูงในตลาดนี้ และ กลุ่มธุรกิจสร้างประสบการณ์ลูกค้า เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงระหว่างผู้บริโภคและแบรนด์สินค้า ด้วยเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อ”

ขณะเดียวกันโครงสร้างธุรกิจใหม่ ยังตอบโจทย์ใหญ่ของโอกิลวี่ ในการสร้างการเติบโตพร้อมกับพาร์ทเนอร์ ภายใต้แนวทางความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้เส้นแบ่ง (Borderless Creativity) เพื่อเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ สินค้า และ ผู้บริโภคให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ผ่านไอเดียความคิดสร้างสรรค์และการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ (Creative Platform) เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างกับภาพรวมของสังคมและโลก

“จากนี้ไปผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต่างมองหาแบรนด์ สินค้า ที่จะทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งจะมีอิมแพคใน 3 ด้านสำคัญต่อแบรนด์ในการทำตลาด คือ ผู้คน (People) โลก (Planet) และ การมีคุณค่า (Performance) ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าหมายในอนาคต” จิรวรา กล่าว

จากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในครั้งนี้ คาดจะผลักดันให้โอกิลวี่ ประเทศไทย เติบโตในกลุ่มธุรกิจใหม่ 2565 สองเท่าตัวจากปี2565 โดยในปีนี้ โอกิลวี่ คาดมีสัดส่วนรายได้หลักจาก กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ (Global) สัดส่วน 20% และ ลูกค้าในประเทศ (Local) 80% โดยผลดำเนินการรายได้หลักกว่า 50% ยังมาจากกลุ่มธุรกิจโฆษณา 

รัฐบาลใหม่ ทำกำลังซื้อเจนใหม่สดใส

จิรวา กล่าวถึงทิศทางอุตสาหกรรมโฆษณาและตลาด หลังประเทศไทยผ่านพ้นการเลือกตั้ง 2566 พร้อมได้รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยประเมินว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในภาพรวมฟื้นตัวขึ้นไปอีก ด้วยหนึ่งในกำลังซื้อหลักของตลาด  จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เจนเนอเรชันวาย และ ซี (Y-Z) ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของฐานเสียงที่สนับสนุนพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

แนวโน้มดังกล่าว ยังเป็นปัจจัยหลักที่อาจจะได้เห็นแคมเปญการทำตลาดในครึ่งปีหลังนี้ ด้วยสินค้าจะกลับมาสร้างแบรนด์ผ่านการออกแบบการสื่อสาร (Design Message) การทำกลยุทธ์การตลาด ร่วมกับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ มากขึ้น ด้วยจะเป็นกลุ่มที่มีพลังมหาศาลกับสังคมนับจากนี้ไป   

จากสัญญาณบวกนับตั้งแต่ไตรมาส3 ปี 2565 ความเชื่อมั่นกำลังซื้อดีขึ้น พบว่าการซื้อสื่อ(Media Speding) เพิ่มขึ้น 6% ในช่องทางหลัก ดิจิทัล และ สื่อนอกบ้าน (OOH: Out of Home Media)   

โฆษณาโลกมองไทย ผ่าน 3รางวัลใหญ่ 

ด้าน กำพล กล่าวเสริมในส่วนแผนงานฝ่ายสร้างสรรค์ โอกิลวี่  โดยนำมุมมองด้าน “อิมแพค” และ “Borderless Creativity” มาใช้ในการทำงานด้านให้เกิดเป็นประสิทธิภาพด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง โดยเข้าร่วมทำงานกับทุกกลุ่มธุรกิจ

จากแนวทางดังกล่าว ส่งผลให้ โอกิลวี่ ประเทศไทย รับรางวัลระดับ Grand Prix หรือเทียบเท่า จาก 3 เวทีประกวดระดับโลก ได้แก่

  1. รางวัล Grand LIA บนเวทีลอนดอน อินเตอร์เนชั่นแนล อวอร์ด 2022 (London International Awards หรือ LIA) จากผลงาน Voiz - The Innocent Eyes ในหมวด TV/Cinema และยังคว้ารางวัล ระดับ Gold อีก 3 รางวัล ในหมวด TV/Cinema: Consumer Campaign, TV/Cinema: Humor, และ Online Film: Consumer Campaign รวมถึงระดับ Silver
  2. รางวัล และ Bronze 1 รางวัล ในหมวด TV/Cinema: Humor นอกจากนี้ ยังได้รับระดับ Silver 3 รางวัล และ Bronze 1 รางวัล ในหมวด Online Film: Confections/Snacks รางวัล Best of Discipline บนเวทีวัน เอเชีย ครีเอทีฟ อวอร์ด 2022 (ONE Asia Creative Awards) จากผลงาน Googo Green – No Pests Allowed ในหมวด Print/OOH และยังคว้ารางวัล Gold, Silver และ Bronze ในหมวดเดียวกันอีกด้วย
  3. รางวัล Grand Prix บทเวทีสไปค์ เอเชีย อวอร์ด 2023 (Spikes Asia Awards)  จากผลงาน IKEA – More Space ในหมวด Print & Publishing

ขณะที่ ชาตรี กล่าวปิดท้ายว่า จากแนวทางการทำงานของโอกิลวี่ในภาพรวมที่มุ่งเติบโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ ที่การันตีผลงานจนนำไปสู่การรับ 3รางวัลกรังด์ปรีซ์ต่อเนื่อง เป็นผลจากความร่วมมือการทำงานในทุกฝายของโอกิลวี่ เพื่อตอกย้ำถึงการเป็น ‘ครีเอทีฟ แพลตฟอร์ม’ ภายใต้ 3 แนวทางหลัก คือ

1. IMPACT THINKING สร้างสรรค์กลยุทธ์เพื่อเป็นโซลูชันธุรกิจ,  2. IMPACT CONTEXT พัฒนากลยุทธ์ ผ่านบริบทและสภาพแวดล้อมธุรกิจ (Content + Context) ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และ 3. IMPACT RESULT พัฒนากลยุทธ์เพื่อสร้างอิมแพคใน 3 ด้าน ผู้คน โลก และ ธุรกิจ 

ทั้งนี้ เพื่อรองรับอินไซด์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ทีต้องการฟังความจริงมากขึ้น ด้วยการนำเสนอเรื่องราวใหม่ให้เรียบง่ายแต่สนุก (Fact & Fun)  เป็นการ "เอาความจริงมาเล่าให้สนุกขึ้น” สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอิมแพคต่อสังคมอย่างแท้จริง

ดังที่ เดวิด โอกิลวี่ (David Ogilvy) ผู้ก่อตั้งโอกิลวี่  เคยกล่าวไว้ว่า ‘CHANGE IS OUR LIFEBLOOD’ การเปลี่ยนแปลงอยู่ในสายเลือดของชาวโอกิลวี่....เสมอออออ

TAGS: #Ogilvy #โอกิลวี่ #โฆษณา