พลังงาน โต้โซเชียลปมค่าไฟไทยแพง ย้ำ 4 ตัวแปรหลักมีผลต่อต้นทุน แจงเวียดนามเตรียมขึ้นค่าไฟในรอบ 4 ปี หลังรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าขาดทุนหนัก
สมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนบางประเทศว่า อัตราค่าไฟฟ้าแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน มีอัตราค่าไฟฟ้าหลากหลายตามประเภทผู้ใช้ ปริมาณการใช้ และช่วงเวลา โดยภาพรวมเป็นผลมาจากปัจจัยที่ต่างกัน ทั้งเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน เสถียรภาพของระบบไฟฟ้าและทรัพยากรที่มีในประเทศ ซึ่งส่งผลต่อประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้า
ตลอดจนทิศทางนโยบายของภาครัฐโดยเฉพาะหากพิจารณาในมิติความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของไทย ธนาคารโลก (World Bank) ได้สำรวจคุณภาพการบริการไฟฟ้าของกลุ่มอาเซียน ซึ่งหมายถึงค่าเฉลี่ยความถี่ที่ระบบเกิดไฟฟ้าขัดข้อง และค่าเฉลี่ยระยะเวลาที่ระบบเกิดไฟฟ้าขัดข้อง พบว่าประเทศไทยมีดัชนีคุณภาพการบริการไฟฟ้าอยู่ในลำดับต้นๆ และดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียนหลายเท่าตัว
ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพและคุณภาพของระบบไฟฟ้า ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการตัดสินใจของนักลงทุน
นอกจากนี้หากมองในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าตามแผนพลังงานชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ.2065 ซึ่งถือเป็นวาระระดับสากลที่สอดรับกับทิศทางความต้องการของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกที่มุ่งไปสู่การใช้เชื้อเพลิงสะอาด
อย่างไรก็ตามเรื่องคุณภาพของการบริการไฟฟ้า และสัดส่วนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยกรณีของประเทศเวียดนาม ซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในขณะนี้ มีสัดส่วนหลักของการผลิตไฟฟ้ามาจากถ่านหิน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยใช้อยู่เป็นหลัก โดยราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา
โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวย้ำว่า จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสื่อของประเทศเวียดนามคาดการณ์ว่าอาจมีการพิจารณาปรับค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในรอบ 4 ปี เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และไม่ได้มีการปรับอัตราค่าไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 ทำให้ EVN ที่เป็นรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าประสบภาวะขาดทุนและได้ยื่นขอความเห็นชอบในการปรับค่าไฟฟ้าจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนที่ปรากฏตามข่าวว่าค่าไฟฟ้าของเวียดนามลดลงนั้น เป็นผลการคำนวณเทียบกลับมาเป็นเงินบาทที่อัตราแลกเปลี่ยนของไทยแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า เมียนมาร์ 1.12 บาทต่อหน่วย ลาว 1.49 บาทต่อหน่วย มาเลเซีย 1.73 บาทต่อหน่วย เวียดนาม 2.72 บาทต่อหน่วย อินโดนีเซีย 3.31 บาทต่อหน่วย ไทย 3.78 บาทต่อหน่วย กัมพูชา 4.94 บาทต่อหน่วย ฟิลิปปินส์ 5.39 บาทต่อหน่วย สิงคโปร์ 5.91 บาทต่อหน่วย
ส่วนประเทศที่มีค่าไฟฟ้าสูงสุดในโลก คือ เยอรมันนี 11.95 บาทต่อหน่วย และ เดนมาร์ก 11.02 บาทต่อหน่วย