‘พิธา’เสียงเปลี่ยน ขึ้นค่าแรง 450 บาทต้องรอบคอบเหตุเป็นรัฐบาลผสม

‘พิธา’เสียงเปลี่ยน ขึ้นค่าแรง 450 บาทต้องรอบคอบเหตุเป็นรัฐบาลผสม
‘พิธา’ถกร่วมส.อ.ท  ชื่นมื่น ชี้ไม่ขึ้นค่าแรงแบบกระชากเสี่ยงกระทบเศรษฐกิจ เชื่อลดค่าไฟฟ้าทำได้ทันที เบรคสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กำจัดทุนผูกขาด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์   หัวหน้าพรรคก้าวไกล  เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจว่า  การมาพบวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่จะมีการหารือในประเด็นเศรษฐกิจ โดยหลังจากนี้จะเริ่มลงในรายภาค ทั้งยานยนต์  สิ่งทอ  ปิโตรเคมี  ตลอดจนการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีมีแต้มต่อ ต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ในประเด็นการปรับขึ้นค่าแรง นั้นอยากให้ทางส.อ.ท.สบายใจว่า การปรับขึ้นค่าแรงไม่ใช่มองด้านเดียว แต่มีนโยบายช่วยเหลือในเรื่องการลดภาษี การเพิ่มลดหย่อนภาษี  2 เท่า  รวมถึงมาตรการสมันยรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ที่เคยมีแนวคิดจะเพิ่มสภาพคล่องอะไรได้บ้าง

ส่วนกรอบตัวเลขการขึ้นค่าแรงงานตอนนี้อยู่ในสถานะการจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาล  ต้องมีการพูดคุยกันต่อ โดยหลังจากนี้จะหารือกับสภาแรงงาน สภาเอสเอ็มอี ซึ่งจะต้องคำนวณอัตราให้รอบคอบ แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ได้มองแค่ตัวเลขอย่างเดียว ทั้งพรรคก้าวไกลและผู้ประกอบการมองร่วมกันว่า ไม่อยากให้ปรับขึ้นค่าแรงกระชากเกินไป อยากให้ขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ หรือแม้แต่ประสิทธิภาพแรงงาน   โดยค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาค่าแรงปรับขึ้นมา 1% ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัว2 %

“ส่วนค่าแรงจะขึ้น 450 บาทหรือไม่นั้นยังเป็นกรอบที่ต้องพูดคุยกันกับสภาแรงงานก่อน และต้องผ่านกระบวนการคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งคงต้องหลังจากที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน อย่างไรก็ตามการปรับค่าแรงต้องพิจารณาให้เหมาะสมก่อน หลังจากนั้นจึงจะยกระดับทักษะแรงงานให้ขึ้นมา

ขณะนี้เป็นรัฐบาลผสม จำเป็นต้องมีการพูดคุยกันตัวเลขยังไม่อยากลงในรายละเอียดเพราะไม่ต้องการให้มีความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ โดยจะรับฟังอย่างรอบคอบทั้งสอท. หอการค้าไทย  สภาเอสเอ็มอี  สภาแรงงาน 

สำหรับประเด็นค่าไฟฟ้า  ตอนนี้ มีการปรับสูตรค่าไฟฟ้า ยืดภาระจ่ายหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) คิดเป็นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ 22 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งสามารถลดค่าไฟฟ้าไปได้ 7 สตางค์แล้ว ส่วนที่เอกชนเสนอมาให้ลด 70 สตางค์ก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ปรับลดลงมามากแล้ว

รวมถึงการทบทวนค่าพร้อมจ่ายให้โรงไฟฟ้า ที่ผ่านมายังมีความเห็นไม่ตรงกัน ในกรณีของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ แม้หลังครม.ล่าสุดได้ผ่านความเห็นชอบแผนผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน  1 หมื่นเมกะวัตต์ อาจต้องชะลอออกไปก่อน  นอกจากนี้จะเข้าไปตรวจสอบว่ามีปัญหาผูกขาดอุตสาหกรรมพลังงานอะไรบ้างเพื่อลดปัญหาในระยะยาว

ส่วนปริมาณสำรองไฟฟ้าต้องอยู่ในหลักคิดของความมั่นคงพลังงานและต้นทุนการผลิตที่สมดุล ไม่ใช่มองเฉพาะความมั่นคงด้านพลังงาน แต่ประชาชนต้องจ่ายเพิ่ม 

“บรรยากาศหารือในวันนี้ราบรื่นดี ลงลึกในหลายเรื่อง ทั้งทรัพยากร  ต้นทุน  ภาวะเศรษฐกิจโลก ต้องมาพูดคุยกันว่าภาคเอกชนต้องการอะไรบ้าง  ที่เห็นชัดอีกเรื่องคือการทำเอฟทีเอกับยุโรปมีความล่าช้า  ค่าไฟฟ้าที่มีต้นทุนแพง และการเพิ่มทักษะแรงงานในประเทศเพื่อให้อุตสาหกรรมไปต่อไปได้  อะไรที่ทำให้เกิดความเสี่ยง เศรษฐกิจสั่นคลอนต้องค่อยๆเดินหน้าทำความเข้าใจร่วมกัน เปิดทางโอกาสทางสอท.สอบถามในประเด็นที่เห็นว่ายังไม่ชัดเจน ใช้เวลากว่า 2 ชม."

นายพิธา  กล่าวว่า หลังจากนี้ จะเดินสายไปพบกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  และหน่วยงานอื่น รวมถึงภาคราชการด้วย 

ด้านนายเกรียงไกร  เธียรนุกุล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)   กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีได้มีการพูดคุยกับที่สำคัญยังมีนโยบายหลายเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจและแนวทางการปฏิบัติ รวมทั้งปัญหา   โดยได้จัดทำข้อเสนอการเพิ่มความสามารถในการในการแข่งขันเพื่อให้ภาคเอกชนไปต่อได้ ขณะที่อุตสาหกรรมดั้งเดิมจะมีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง  ตลอดจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะช่วยเหลืออย่างไรในช่วงเปราะบางเพื่อให้ประเทศมีการขับเคลื่อน  ซึ่งจะมีเรื่องการปรับปรุงกฏหมายเพื่อส่งเสริม Ease Of  Doing Business  รองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น

สิ่งที่เห็นตรงกันคือจากนี้ไปภาครัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกันใกล้ชิดในทุกมิติ เราจะมีคณะทำงานร่วมกัน เพื่อลงรายเซ็คเตอร์ ต้องการอะไร แก้ปัญหา กับส.อ.ท.โดยเฉพาะ  

สำหรับประเด็นค่าแรงงาน เป็นความกังวลตั้งแต่แรกที่พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1และ 2  มีนโยบายขึ้นค่าแรง ทั้งพรรคก้าวไกลขึ้น 450 บาท ทุกปี  ส่วนพรรคเพื่อไทยปรับ 600 บาทในระยะ 4 ปี  ซึ่งต้องบอกก่อนว่าคุณพิธาเป็นสมาชิก ส.อ.ท. รู้ปัญหาทุกปัญหา  อยู่ในฐานะเป็นผู้จ่ายค่าแรงงาน  เพราะฉะนั้น หากปรับขึ้นในอัตราที่เสนอกันไว้อาจช็อค เป็นยาแรงเกินไป  ซึ่งคุณพิธาแจ้งในที่ประชุมว่ายินดีรับฟังทุกคนและนำปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องคุยกัน  ดังนั้นทุกภาคส่วนจะมีส่วมร่วมด้วยกันทุกคน

 

TAGS: #ส.อ.ท. #พรรคก้าวไกล #ขึ้นค่าแรง #ลดค่าไฟฟ้า