เปิดแผนคุมดีเซลไม่เกิน 32 บาท รองรับขึ้นภาษี 5 บาท

เปิดแผนคุมดีเซลไม่เกิน 32 บาท รองรับขึ้นภาษี 5 บาท
กบน.เตรียมส่งโมเดลดูแลราคาดีเซล 32 บาทถึงรัฐบาลรักษาการ และว่าที่รัฐบาลใหม่ หากคลังลดภาษีน้ำมัน 5 บาทต่อลิตร เลือกลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯควบคู่ไปด้วย

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์. ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)  เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งมี รมว.พลังงาน เป็นประธานได้สั่งการให้ สำนักงานกองทุนฯ จัดทำสมมติฐานต่าง ๆ (Scenario Analysis)ของมาตรการดูแลราคาน้ำมันดีเซล เพื่อเสนอทั้งรัฐบาลรักษาการ และ รัฐบาลใหม่ เพื่อให้ทราบทิศทางและให้นโยบายทางการเมืองว่าจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับทิศทางราคาดีเซล ซึ่งขณะนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร    ภายใต้การลดภาษีสรรพสามิต ดีเซล 5 บาทต่อลิตร  จนถึงวันที่ 20 ก.ค. 66( จัดเพียง 1.34  บาท/ลิตร ) และเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ 5.43  บาท/ลิตร

ทั้งนี้กบน.ได้ประเมินราคาดีเซลจนถึงสิ้นปี 2566 หากราคาตลาดโลกอยู่ที่ราคาปัจจุบันประมาณ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล  และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 33-35 บาท/เหรียญสหรัฐ กำหนดสมมติฐานไว้ 2 แนวทางได้แก่

1.กรณีนโยบายภาครัฐให้ขึ้นภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตรหลังวันที่ 20 ก.ค.66 ทาง กบน.ก็คาดว่า จะสามารถรักษาระดับราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร ด้วยการลดการจัดเก็บเงินกองทุนประมาณ 5 บาท/ลิตร โดยกองทุนสำหรับดีเซลจะเหลือประมาณ 43 สตางค์/ลิตร ก็จะเพียงพอในการดูแลสภาพคล่องกองทุนฯได้ 

2.กรณีรัฐบาลต้องการให้ลดราคาดีเซลต่ำกว่า 32 บาท/ลิตร รัฐบาลต้องใช้นโยบายภาษีเข้ามาร่วมดูแลด้วย โดยแทนที่จะขึ้นทันที 5 บาท/ลิตร ก็จะต้องทยอยขึ้น อาจจะเป็น 2-3 บาทต่อลิตร แนวทางนี้กองทุนฯก็จะร่วมดูแล โดยการลดการจัดเก็บเงินกองทุนฯควบคู่ไปด้วย เช่น หากต้องการเห็นดีเซล 30 บาท/ลิตร ก็ต้องลดภาษีต่อ อีก  2 บาท/ลิตร และลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯลง 5 บาท/ลิตร

ปัจจุบัน(29 พ.ค. 66 )ฐานะเงินกองทุนน้ำมันฯล่าสุด ติดลบ 69,000 ล้านบาท จากเคยติดลบสูงสุดกว่า  1.3 แสนล้านบาท โดยสภาพคล่องในขณะนี้ดีขึ้นจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง มีเงินไหลเข้าประมาณ 10,000 ล้านบาท/เดือน (จากการจัดเก็บเงินกองทุนอัตราปัจจุบัน ) และ  อีก 2   เดือน ก็คาดว่าเงินกองทุนฯจะติดลบเหลือ  5  หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นหากลดเงินกองทุนฯที่เก็บดีเซลจาก 5.43 บาทเหลือประมาณ 0.43 บาท/ลิตร จากยอดการใช้ดีเซลเฉลี่ยวันละ 65-67 ล้านลิตร คาดว่าจะมีเงินไหลเข้ากองทุนส่วนนี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท/เดือน น่าจะมีเพียงพอในการจ่ายคืนเจ้าหนี้   โดยขณะนี้กู้มาแล้ว 5 หมื่นล้าน บาท และจะกู้เพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาทเป็น 7 หมื่นล้านบาทภายในเดือน มิ.ย.นี้  โดยวงเงินจำนวนนี้เพียงพอในการดูแล ไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่มอีก 

“กองทุนฯพร้อม จะลดการจัดเก็บเงินสำหรับดีเซล โดยจะต้องพิจารณาทั้งจากนโยบายรัฐบาล  ราคาตลาดโลก  การจ่ายคืนเจ้าหนี้ และการดำเนินการตามวินัยการเงิน การคลัง  ซึ่งหากราคาดีเซล สิงคโปร์ ยังอยู่ที่ 90 เหรียญ การใช้ดีเซลยังสูงราว 65-67 ล้านบาร์เรล/วัน เงินสดจะเข้ามาเป็นบวก ไม่ติดลบ  ก็คาดว่าราคาดีเซลจะอยู่ได้ที่ 32 บาท แม้ว่าจะขึ้นภาษี 5 บาท/ลิตร” 

นายวิศักดิ์ กล่าว ฐานะกองทุนน้ำมันฯดีขึ้น เป็นผลมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกผ่อนคลายลง ราคาดีเซล (Gas Oil) เดือน ต.ค.65 ที่เคยสูงถึง 133.84 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ได้ปรับลดลงมา  โดยช่วง2 สัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. (1 –12 พ.ค.66) ราคาดีเซลลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 87.49 เหรียญ/บาร์เรล หรือลดลงเฉลี่ยถึงเกือบ 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.

ส่วนอีกปัจจัยคือ ความสามารถในการกู้ยืมเงินมาชำระหนี้ของกองทุนน้ำมันฯดีขึ้น หลังจากกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมของ สกนช. ส่งผลให้มีสภาพคล่องมากขึ้นและได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วตั้งแต่ต้นปี2566 ถึง 6 ครั้ง จาก 35 บาทต่อลิตร เหลือ 32 บาทต่อลิตร (ณ วันที่ 15 พ.ค.66)

อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ราคาน้ำมันผันผวน ปัจจัยคุกคามที่จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันกลับมาผันผวนอีก และต้องบริการกองทุนฯเพื่อดูแลเสถียภาพราคาน้ำมัน คือภาวะตลาดโลก ทั้งการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน, การลดอัตรากำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ,ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ตลอดจนความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป ถดถอย ซึ่งกบน.จะประชุมหารือต่อเนื่อง พร้อมทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

TAGS: #ดีเซล #32 #บาท #ภาษีน้ำมัน #กองทุนน้ำมัน