กิฟฟารีน รับเทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านแบรนด์ PATTERNA สกินแคร์นวัตกรรมสมุนไพรจากข้าวหอมมะลิ เตรียมเปิดตัวในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 พร้อมลุยต่อตลาดต่างประเทศ
น.ท.นพ.จักรพงศ์ ไพบูลย์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ทำตลาดต่อเนื่อง โดยใช้วัตถุดิบสมุนไพรในประเทศ เป็นเรือธงพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
ด้วยบริษัทมองเห็นโอกาสผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยยังมีความต้องการสูง และยังเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ โดยเฉพาะภายหลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ผู้คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มสุขภาพ พร้อมมองหาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมากขึ้น และเชื่อว่าสินค้าสุขภาพจากประเทศไทยจะเป็นที่ต้องการในตลาดโลก และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เป็นอย่างดีไม่แพ้เรื่องการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ บริษัทได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ PATTRENA สำหรับสินค้ากลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ โดย มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศและตลาดสปา ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติครั้งสำคัญอย่างต่อเนื่อง
“หลังวิกฤติโรคระบาดโควิด -19 บริษัทฯ จะกลับมาขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมทำตลาดแบรนด์ PATTRENA ในประเทศไทยด้วย มุ่งช่องทางสปาและโรงแรม 4-5 ดาว และ Day Spa ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พังงา กระบี่ เกาะสมุย เชียงใหม่ เชียงราย ระยอง พัทยา เขาใหญ่ ฯลฯ รวมแล้วกว่า 180 แห่ง และยังจะขยายการตลาดแพททรีน่าในประเทศผ่านช่องทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่องด้วย” น.ท.นพ.จักรพงศ์ กล่าว
โดยปีนี้บริษัทฯ มีสินค้านวัตกรรมใหม่ในกลุ่ม SKIN CARE เพื่อบำรุงผิวจากสมุนไพรไทยเป็นส่วนผสมหลักในสูตร โดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติ “ข้าวหอมมะลิไทย” ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีทางชีวภาพทำให้สารสำคัญอยู่ในรูปนีโอโซมในระดับนาโน ส่งผลให้สารสำคัญคงสภาพและซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพด้าน ชะลอการเกิดริ้วรอย (Anti-Aging) ผสานการทำงานร่วมกับสารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวงจากประเทศไทย ดอกบัวหลวงเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า มีคุณสมบัติทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส
นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์บรรจุภัณฑ์ วางจุดเด่นแบรนด์ PATTRENA ด้านการใช้สมุนไพรไทยที่มีอยู่หลากหลายในประเทศไทย เมื่อผ่านการเลือกสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดีสำหรับสินค้ากลุ่มสปา-สมุนไพรไทยจากประเทศไทย จึงนับเป็นจุดแข็งและความโดดเด่นของสินค้าจากประเทศไทยในตลาดโลก ที่เรามีเหนือคู่แข่งจากประเทศอื่น
น.ท.นพ.จักรพงศ์ กล่าวว่า บริษัทฯ วางแนวทางการทำตลาดทั้งสองรูปแบบ คือ ผ่านการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และการตลาดแบบออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว โดยพัฒนาข้อมูลของสินค้าให้เหมาะสมกับ Digital Platform ต่างๆ และใช้สื่อ Social Media ต่างๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปี 2566 นี้ ยังเป็นปีแรกหลังจากวิกฤติโรคระบาดโควิด -19 โดยบริษัทฯ จัด Trip เยี่ยมชมลูกค้า Spa และโรงแรมในประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งปี และเริ่มโรดโชว์พบลูกค้าและร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาการค้าทางธุรกิจที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้แก่
- Business Matching – Hanoi, Vietnam (22-24 Feb,2023)
- Thailand Week Exhibition- New Delhi, India (15-20 Mar,2023)
- Thailand Week Exhibition- Chennai, India (3-8 May,2023)
- Naturally Good Expo – Sydney, Australia (3-7 Jun,2023)
- Cosmoprof CBE Bangkok (14-16 Sept,2023)
- Cosmoprof Asia - Hong Kong (14-18 Nov,2023)