ถกฑูตจีนเชื่อมการค้า หนุนใช้ไทยตั้งฐานผลิตหลักรถ EV

ถกฑูตจีนเชื่อมการค้า หนุนใช้ไทยตั้งฐานผลิตหลักรถ EV
ส.อ.ท.หวังจีนขนเงินลงทุนตั้งฐานผลิต 3 อุตสาหกรรมในไทย รถ EV  อาหาร และเครื่องมือแพทย์  หวังเจาะตลาดการค้าในอาเซียน-ทั่วโลก

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. พร้อมด้วยนายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ ประธานสถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย-จีน ร่วมประชุมหารือกับ ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และคณะติดตาม ในโอกาสให้เกียรติเยือน ส.อ.ท.ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส.อ.ท.เป็นตัวแทนของภาคเอกชนไทย ใน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับจีนตลอดมา ส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีความเข้มแข็งและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีนได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรรม ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ส่งผลให้ไทยเป็นพันธมิตรที่ดีในการสร้างความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Security)

 

ทั้งนี้ได้เชิญชวนจีนพิจารณาให้ไทยเป็นฐานหลักในการผลิตเพื่อขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน โดยตอกย้ำความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการผลิตของไทยในด้านต่างๆ อาทิอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Automobile)  ซี่งปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Top 5 ชั้นนำของจีนได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส.อ.ท. จึงเสนอให้ประเทศจีนใช้ประเทศไทยเป็นฮับ (Hub) ในการขยายตลาดในอาเซียนและทั่วโลก

 

นอกจากนี้อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food)   ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบที่มีคุณภาพและศักยภาพการผลิตที่ทั่วโลกให้การยอมรับ อีกทั้งยังดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายแนวคิดเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาลไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น

 

ขณะที่อุตสาหกรรมการแพทย์ (Healthcare)  เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของทั่วโลก เนื่องจากสังคมกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next – Generation Industry)  

 

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน เพื่อขับเคลื่อนด้านต่างๆ ดังนี้  ด้านการนำดิจิทัลมาปรับใช้ (Digital Transformation). จีนมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่าย 5G และการให้บริการทางดิจิทัล (Digital Services) ซึ่งจะช่วยสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของไทยให้มีทักษะดิจิทัลมากขึ้น

 

ด้านการขยายเส้นทางขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับจีนส่งเสริมนโยบายข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt and Road Initiative (BRI) หรือ One Belt, One Road รวมทั้งเส้นทางใหม่ๆ เช่น การขนส่งด้วยรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน

 

ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญในประเด็นด้านความยั่งยืน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งทาง ส.อ.ท. ให้ความสำคัญและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมช่วยกันแก้ปัญหาด้าน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ได้ตั้ง “สถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย-จีน” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมระหว่างสองประเทศ และยินดีให้ความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจีนหลากหลายหน่วยงาน เช่น สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน หรือ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามการประชุมหารือครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยปรับตัวและยกระดับให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างยั่งยืนต่อไป

TAGS: #ส.อ.ท. #EV #อุตสาหกรรมการแพทย์ #One #Belt #Road