ไซมีสฯ เปิดเกมใหม่อสังหาฯ พัฒนาทุกโครงการภายใต้แนวคิดประหยัดพลังงาน เตรียมสร้างโรงพยาบาล-ศูนย์ดูแลผู้สูงวัยเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม มูลค่า 2,000 ล้านบาท สร้างองค์กรยั่งยืนผ่านคอร์ปอเรท ‘กรีนโลน’
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ปะธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอ (SA) ผู้พัฒนาอสัหาริมทรัพย์แบบครบวงจร กล่าวว่าบริษัทวางวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจอสังหาฯเพื่อการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาวให้สอดคล้องกับแนวโน้ม(เทรนด์)การพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้ระบบนิเวศกรีน ลีฟวิง ตั้งแต่กระบวนการออกแบบพัฒนาโครงการ การขอรับสินเชื่อธุรกิจ (คอร์ปอเรท โลน) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม (เซ็กเมนต์) ในพอร์ตไซมีสฯ
“แนวทางดังกล่าว ยังจะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นจากดอกเบี้ยอัตราพิเศษตั้งแต่ผู้พัฒนาโครงการฯ ซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงแผู้บริโภคที่ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่ละแห่งซึ่งมีเคพีไอการอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (กรีน โลน)ทั้งระบบ จากในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนของผู้พัฒนาอสังหาฯได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรงจากแหล่งทุนดอกเบี้ย (บอนด์ ยีลด์)ที่ผันผวนสูง” ขจรศิษฐ์ กล่าว
ปัจจัยหลักผลักดันให้บริษัท มุ่งความสำคัญพัฒนาโครงการฯประหยัดพลังงานและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ล่าสุดบริษัทได้รับรางวัล เอดจ์ แชมเปียน (EDGE Champion) ผ่านมาตรฐานการรับรองอามคารระดับโลก เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมรับเซอร์ติฟิเคท อีเอสจี 100 คัมพานี (Certificate ESG100 Company) โดยสถาบันไทยพัฒน์ เพื่อรองรับผลงานการพัฒนาอสังหาฯ ที่เผ็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับรางวัลดังกล่าว จะเป็นรางวัลระดับองค์กรอย่างถาวร เพื่อให้ทุกโครงการฯในอนาคตของบริษัทฯ จากนี้ไปจะดำเนินการภายใต้แนวคิดอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯได้เริ่มวางแนวทางอย่างจริงจังตั้งแต่3 ปีก่อน เพื่อนำร่องไปสู่การขอรับการสนับสนุนแหล่งทุนในตลาดเกิดใหม่ของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกคำนึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
โดยมีโครงการแนวราบและแนวสูงที่เข้าเกณฑ์เงื่อนไขและได้รับอนุมัติก่อนได้การรับรองมาตรฐาน (Pre Certificate) อาทิ หมู่บ้านมนต์เสน่ห์ ย่านพรานนก , โรงแรม TRIBE Bangkok Sukhumvit 39 โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างฯทั้งภายใน/นอก การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล สุขภัณฑ์ประหยัดการใช้น้ำ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์นำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้หมุนเวียนได้ในช่วงกลางวัน ระบบการกำจัดน้ำเสีย ฯลฯ ซึ่งช่วยให้ปประหยัดค่าใช้จ่านด้านพลังงานได้กว่า 30-40% และในอีก 6 โครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ที่เป็นไปตามมาตรฐาน EDGE Champion
ขจรศิษฐ์ กล่าวว่าบริษัทเตรียมใช้งบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท พัฒนาโรงพยาบาลผู้สูงอายุ (Elderly Hospital) จำนวน 50-60 เตียง และ ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย (Nursing Home) แบบรายวันและพักประจำ จำนวน 200 เตียง โดยทั้ง2โครงการฯจะให้บริการในบริเวณเดียวกับโครงการฯคอนโดมีเนียมไซมีส จำนวน 445 ยูนิต บนพื้นที่รวมกว่า 3 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลรายใหญ่ย่านนวมินทร์ คาดระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปีครึ่งนับจากนี้ หรือราวปี 2569
“แผนนี้ บริษัทคาดหวังได้รับคอร์ปอเรท โลน ในระยะยาวต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20 ปีด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขณะที่ลูกค้าโครงการฯต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยก็จะได้สิทธิประโยชน์ในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะราคาบ้านแต่ละโครงการมีราคาห่างจากคู่แข่งในทำเลและระดับเดียวกันอยู่ราว 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนที่แตกต่าง” ขจรศิษฐ์ กล่าว
พร้อมมองสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในครึ่งหลังปี 2566 นี้ จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งผลบวกกับโครงการฯอสังหาในกลุ่มโรงแรม และคอนโด ของบริษัท ซึ่งทำธุรกิจในรูปแบบ(โมเดล)ไฮบริดซึ่งแตกต่างไปจากผู้เล่นรายอื่น ด้วยในช่วงโควิดที่ผ่านมาบริษัทมีทั้งโมเดลการขายละการปล่อยเช่าในสัดส่วนเท่ากัน 50% และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายบริษัทปิดการขายได้เกือบหมด รวมถึงอสังหาฯโรงแรมที่เน้นพักผ่อนระยะยาว (ลองสเตย์) จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ อาทิ ชาวญี่ปุ่น ที่ย้ายการทำงานเข้ามาในไทย และพร้อมจ่ายค่าที่พักตามงบประมาณที่ได้รับจากองค์กรเต็มจำนวน
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการฯระหว่างพัฒนา(แบ็คล็อค) กว่า 7,000 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการแนวสูว 6,500 ยูนิตและกลุ่มบ้าน 500 ยูนิต โดยบริษัทยังอยู่ระหว่าวพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส อีกหนึ่งแห่งซึ่งเป็นการร่วมทุน(เจวี) กับพันธมิตรอสังหาฯรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ไซมีส ยังเตรียมเปิดสำนักงานที่ฮ่องกง คาดพร้อมเข้าไปจดทะเบียนปลายปี 2566 เพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกับตัวแทนนายหน้าอสังหาฯในฮ่องกง และ จีน โดยตรง